ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ขยายผลผับลับ จินหลิง จับผู้ค้ายาเสพติดชาวสิงคโปร์

เช้านี้ที่หมอชิต - จากคดีการบุกค้นและจับกุม "ผับลับ จินหลิง" ย่านสาทร กำลังถูกขยายผลออกไปเรื่อย ๆ อย่างล่าสุด ก็เพิ่งไปจับกุมผู้ค้ายาเสพติดสัญชาติสิงคโปร์ได้ 2 คน พร้อมของกลางยาเสพติดหลายประเภท และซองบรรจุแบบเดียวกับที่พบใน "ผับลับ จินหลิง"

ของกลางที่ตรวจพบมีทั้ง ไอซ์, ยาบ้า, ยาอี, เคตามีน, โคเคน อันนี้เหมือนกับยาเสพติดทั่วไป แต่ที่พบเหมือนกับใน "ผับลับ จินหลิง" ย่านสาทร เช่น ยาเสพติด "ไฟว์ไฟว์", ยาเสพติด แฮปปี้วอเตอร์, ซองเปล่าสีเหลืองรอการบรรจุ เหมือนที่พบในผับจำนวน 100,000 ซอง, เครื่องแพ็กยาเสพติด นอกจากนั้นก็เป็นของกลางอื่น ๆ เช่น ตู้ลำโพงที่ใช้ลักลอบนำเข้ายาเสพติด, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์พร้อมกระสุน ทั้งหมดนี้ ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยึดได้หลังเข้าจับกุม นาย ออง เชา เซียง หรือ นาย เส้ง อายุ 34 ปี และ นายโล จิน อัง อายุ 63 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงและเขตดินแดง ก่อนพาตัวไปค้นห้องพักที่เปิดไว้ในโรงแรมดังกล่าว

พลตำรวจเอก ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ยอมรับว่า ยาเสพติดที่พบถูกซุกซ่อนมาในลำโพง นำเข้าผ่านทางประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาทางภาคอีสานของไทย จากนั้นผู้ต้องหาจะไปรับพัสดุดังกล่าวที่ย่านหัวลำโพง มาไว้ที่ห้องพักต่าง ๆ ซึ่งได้เช่าเปิดไว้ช่วงสั้น ๆ เพื่อนำยาเสพติดไปแยกบรรจุใส่ซอง นำไปขายตามสถานบันเทิงต่าง ๆ และยังยอมรับด้วยว่า ลักลอบอยู่ในไทยมานานกว่า 20 ปี แล้ว ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ไม่มีญาติพี่น้อง หรือประกอบอาชีพใด ๆ ในไทย

ส่วนความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในพื้นที่ สน.ยานนาวา, สน.สุทธิสาร และพัทยา พบความเชื่อมโยงเพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน ของนักท่องเที่ยวสัญชาติจีน มีเจ้าของคนละคนกัน ส่วนจะเชื่อมโยงด้านยาเสพติดหรือไม่ อยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบ

ขณะที่ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มนักท่องเที่ยวใน "ผับลับ จินหนิง" เมื่อวานนี้ก็มีญาติของผู้ต้องหาไปเยี่ยมที่ สน.ยานนาวา หลังจากที่ทราบข่าวว่า ตำรวจจะนำตัวไปส่งฟ้องต่อศาล เพราะผลการตรวจสารเสพติด ยืนยันแล้วว่าเสพยาฯ จริง โดยระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังเก็บภาพบรรยากาศ ก็มีญาติของผู้ต้องหาคนหนึ่ง เดินไปผลักประตูกระจกใส่ผู้สื่อข่าวและช่างภาพ ก่อนที่จะชูนิ้วแสดงความไม่พอใจ จนผู้สื่อข่าวต้องเตือนไปว่า หากทำอีกจะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์

หลังการสอบสวน ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพ 63 คน ไปส่งให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ แต่เมื่อไปถึงกลับมีผู้ต้องหาถึง 56 คน ที่ขอกลับคำให้การ ทำให้อัยการสั่งฟ้องได้เพียงแค่ 7 คน ส่วนที่เหลือ 56 คน และอีก 15 คน ที่ให้การปฏิเสธตั้งแต่แรก ตำรวจจะคุมตัวทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขังอีกครั้งในวันนี้ (28 ต.ค.) ส่วนคนที่ตรวจแล้วไม่พบว่ามีสารเสพติด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะตรวจสอบประวัติเชิงลึก เพื่อดำเนินคดีตามความผิดที่พบต่อไป

ส่วนการขยายผลเพื่อหาตัวเจ้าของผับลับตัวจริงนั้น พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานหลายปากที่ผ่านมา ยังให้การไม่เป็นประโยชน์พอที่จะยืนยันได้ว่า บุคคลคนนี้คือใคร ส่วนข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมาทุกช่องทาง ได้รวบรวมนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสืบสวนจับกุม

สำหรับของกลางที่ยึดได้โดยเฉพาะตู้เซฟ 6 ตู้ ที่ตอนนี้เปิดได้แล้ว 1 ตู้ พบยาเสพติดเก็บไว้ภายใน แต่อีก 5 ตู้ ยังไม่สามารถเปิดได้ อยู่ระหว่างการติดต่อให้เจ้าของหรือผู้ดูแลมาเปิดตู้ภายใน 1-2 วันนี้ และได้ประสานบริษัทผู้ผลิตตู้เซฟทั้ง 5 ตู้ ให้นำช่างมารอดำเนินการแล้ว โดยระหว่างนี้ตู้เซฟจะเก็บรักษาไว้ที่ สน.ยานนาวา เป็นการชั่วคราว โดยมีร้อยเวรคอยดูแล และมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ตลอดเวลา

ด้าน พลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. เปิดเผยว่า ต้องรอให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำรายละเอียดพฤติการณ์ความผิดส่งมายัง ตม. เพื่อพิจารณา กรณีของผู้ที่พบพฤติกรรมเสพยาเสพติด จะทำการเพิกถอนวีซ่า พร้อมกับผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็ต้องดูว่ามีการกระทำผิดในเรื่องอื่นหรือไม่ หากพบว่ามีก็จะดำเนินการไปตามกฎหมาย

ส่วนที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ให้ความเห็นว่า ควรมีการตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดจากประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เรื่องนี้เห็นว่าหากคดีส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยมีที่มาจากคนประเทศใดประเทศหนึ่งจริง ทาง ตม. ก็จะสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ เฝ้าระวังคนจากประเทศนั้น ๆ เป็นพิเศษ แต่ไม่ถึงขั้นต้องตั้งศูนย์ปราบปรามฯ ขึ้นมาใหม่ เพราะจะซ้ำซ้อนกับ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำงานที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติอยู่แล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark