โตโน่ ภาคิน เดินหน้าว่ายข้ามโขง

เช้านี้ที่หมอชิต -  ส่วนที่จังหวัดนครพนม เมื่อวานนี้ 20 ตุลาคม โตโน่ ภาคิน พร้อมทีมงาน ตระเวนกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ทั้งที่ศาลหลักเมืองจังหวัดนครพนม และ ศาลเจ้าพ่อหมื่นนครพนม ก็มีแฟน ๆ มาขอถ่ายรูป มาตอนรับ ยิ้มแย้ม ทักทาย คอยให้กำลังใจ และทักทายตลอดทาง

นอกจากนี้ โตโน่ ยังได้ไปพบปะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อประสานการจัดสถานที่บริเวณจุดปล่อยตัว ที่ลานแลนด์มาร์ก พญานาคศักดิ์สิทธิ์ องค์พญาศรีสัตตราคราช ที่จะมีพิธีรำบวงสรวง พร้อมปล่อยตัวโตโน่ ว่ายข้ามแม่น้ำโขง ช่วงเช้าวันที่ 22 ตุลาคมนี้ เจ้าตัว เผยยังมั่น และมีความพร้อมมาก ในการว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง โดยจะไม่ซ้อมในสนามจริง แต่จะลงว่ายน้ำในวันจริงเลยทีเดียว

ร่วมบริจาคโครงการ One Man And The River  ธ.กรุงศรีอยุธยา เลขที่ 034-0-04773-2
ส่วนยอดบริจาค ล่าสุด ทะลุกว่า 7 ล้านบาทแล้ว  โตโน่ เผยว่า รู้สึกภาคภูมิใจมากที่พี่น้องประชาชน ทั้งชาวไทย และชาว สปป.ลาว เห็นความสำคัญของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เนื่องจากเป้าหมายหลัก คือ การช่วยเหลือ แพทย์ พยาบาล ที่ดูแลรักษาผู้ป่วย ให้มีเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ คาดว่าถึงวันว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง จะมียอดบริจาคเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท 

สำหรับการดูแลจัดงาน มีทีมออกะไนซ์เซอร์ดูแล เตรียมพร้อมจัดงานทั้งหมด ในส่วนของ จังหวัดนครพนม และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เป็นเพียงผู้มีส่วนร่วม ในฐานะเจ้าบ้านเท่านั้น โดยเฉพาะในเรื่องการดูแลความปลอดภัยภาพรวมทั้งหมด ยิ่งช่วงที่ โตโน่ กำลังว่ายอยู่ในน้ำข้ามแม่น้ำโขง มีทีม และระบบเซฟตีที่มั่นใจได้ 

ด้านนายอารมณ์ เวียงด้าน หรือ ครูไก่ ประธานชมรมนกเป็ดน้ำนครพนม เปิดเผยถึงเส้นทางการว่ายน้ำของโตโน่ ที่หลายคนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ในฐานะตนและทีมงาน เป็นนักว่ายน้ำลอยน้ำโขง ซึ่งเป็นกีฬาทางเลือกเพื่อสุขภาพ ที่มีการว่ายน้ำด้วยการสวมเสื้อชูชีพ ในระยะทางวันละกว่า 10 กิโลเมตร มั่นใจว่าน้ำโขงปลอดภัย ไม่เสี่ยงอันตราย

ส่วนเส้นทางการว่ายน้ำของโตโน่ ถือว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะจากเส้นทาง จะมีแค่การว่ายตัดน้ำโขง แต่ไปตามกระแสน้ำ ยิ่งขากลับ ทิศทางลมยิ่งดี และหากสภาพอากาศหนาวเย็น ก็ไม่กระทบ เพราะ อุณหภูมิน้ำโขงอุ่น พร้อมกล่าวชื่นชมว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องดี ต้องชื่นชมโตโน่ทำเพื่อการกุศล และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วย

“อนุทิน” ยินดี “โตโน่” ว่ายน้ำระดมเงินบริจาคโรงพยาบาล ย้ำ ไม่ขวางคนทำความดี
กว่าจะถึงวันจัดกิจกรรมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง " One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ " จัดวันที่ 22 ตุลาคม ของ โตโน่ ภาคิน เพื่อระดมทุนจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลไทย และ สปป.ลาว เรียกว่าเกิดกระแสดรามาถาโถมมากมาย หนึ่งในนี้ คือประเด็นที่ว่า รัฐจัดสรรงบด้านสาธารณสุขไม่เพียงพอ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นเรื่องของศรัทธาของ โตโน่ อยากทำประโยชน์ และถ้าไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อน หรือ กระทบกับความมั่นคง ไม่ได้ทำให้ระบบมีปัญหา หรือไปทำให้เกิดอุปสรรคต่อการทำงาน ก็ตามแต่ความศรัทธา โตโน่ มีความตั้งใจดี ที่อยากช่วย ส่วนใครที่ไม่เห็นด้วยไปบังคับเขาไม่ได้ ส่วนเงินที่ โตโน่ นำมาจากการบริจาค เป็นเรื่องที่โตโน่ จะจัดการ เพราะกระทรวงสาธารณสุขไม่เคยไปร้องขอ ต้องพูดให้ชัด เพราะไม่อยากให้เกิดประเด็นโรงพยาบาลรัฐได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ตอนนี้ มีงบบำรุงที่เข้มแข็ง แต่เมื่อมีคนอยากช่วย เราก็ให้ความร่วมมือ ไม่ขัดเจตนา

คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาชี้แจงดรามา การเข้าใช้อุโมงค์น้ำ เพื่อทดสอบสมรรถภาพทางกาย ของโตโน่ ภาคิน ก่อนไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง หลังมีนิสิตมาทวีตข้อความ ผ่านทวิตเตอร์ ทวงถามว่าทีนิสิต ไม่ได้ใช้ อ้างว่า แพง ๆ แต่ทำไม โตโน่ ได้ใช้ฟรี ทางจุฬาฯ ยอมรับ ให้โตโน่ ใช้อุโมงค์น้ำ ไม่คิดค่าใช้จ่ายจริง ๆ พร้อมชี้แจงเหตุผลด้วย  

ทางแฟนเพจ Chula SPSC ของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา​ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสชี้แจงประเด็นดรามา เกี่ยวกับอุโมงค์​น้ำ หรือ Water Fume ที่โตโน่ เข้าไปใช้ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ว่าได้เสียค่าใช้จ่ายหรือไม่ เพราะมีนิสิตที่ออกมาแสดงความเห็น บอกว่า อาจารย์จะบอกเสมอว่าเครื่องนี้แพง นิสิตยังไม่มีโอกาสได้ใช้เลย

ทางคณะฯ ยอมรับว่า โตโน่ เข้าไปใช้อุโมงค์น้ำ โดยไม่มีเสียค่าใช้จ่ายจริง ๆ เพราะ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อุโมงค์​น้ำชำรุดและต้องซ่อมแซม ซึ่งในขณะที่มีการซ่อมแซม​ ทางคณะฯ ได้รับการติดต่อจากทีมงานของโตโน่ เพื่อขอรับบริการทดสอบสมรรถภาพ​ทางกายและขอใช้อุโมงค์​น้ำ เพื่อฝึกซ้อม

ตอนแรก คณะฯ มีความตั้งใจ ที่จะคิดค่าใช้จ่ายตามระเบียบ แต่เมื่อใช้งานจริง ทางคณะฯ เห็นว่า อุโมงค์น้ำยังไม่เรียบร้อย​ดี เพราะจะเห็นได้ว่า น้ำในอุโมงค์​มีตะกอน และมีความขุ่นเป็นอย่างมาก​ อีกทั้งหนังสือขอความอนุเคราะห์ แจ้งมาอย่างชัดเจน ว่ากิจกรรมที่จะเกิดขึ้นเป็นกิจกรรมการกุศล คณะฯ จึงพิจารณา​ให้ความอนุเคราะห์​ ในการเข้ามาใช้บริการอุโมงค์น้ำ โดยยกเว้นค่าใช้จ่ายตามประกาศ ให้เป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนี้ ยังตอบอีกประเด็นดรามาว่า "อุโมงค์น้ำ ได้นำมาใช้กับนิสิต และการเรียนสอนหรือไม่" ทางคณะยืนยันว่าได้ใช้ด้านการเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษาและนิสิตที่สนใจทำวิทยานิพนธ์ เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพทางการกีฬา ส่วนในระดับปริญญาตรี นิสิตจะได้เรียนรู้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ทันสมัยที่หลากหลาย ตามบริบทเนื้อหารายวิชาของหลักสูตร แต่ด้วยจำนวนเครื่องแค่ 1 เครื่อง และมีนิสิตเป็นจำนวนมาก จึงอาจได้แค่เรียนภาคทฤษฎีและสาธิตเท่านั้น