ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ตรวจไม่พบแล้ว บ่อนพนันย่านรามอินทรา

ข่าวอาชญากรรม 29 ตุลาคม 2565 - สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - หลังจากเป็นเรื่องเป็นราวกรณีมีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักพนันไปร้องกับเพจสายไหมต้องรอด ว่าถูกนักเลงคุมบ่อนพาตัวไปทำร้ายร่างกาย บังคับรีดเอาเงินไปเกือบ 5 ล้านบาท อ้างว่าเล่นโกงพนัน หลังจากนั้นเพียงแค่ 1 วัน จากบ่อนการพนันกลายเป็นโต๊ะสนุกเกอร์เต็มรูปแบบ

พลตำรวจตรี นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ตัวแทนสำนักงานเขตบึงกุ่ม และการประปานครหลวง เข้าตรวจสอบที่เดอะ เบสท์ สนุกเกอร์ ซอยรามอินทรา 40 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักพนันผู้เสียหายระบุว่า เป็นบ่อนการพนันที่เข้าไปเล่นแล้วถูกนักเลงคุมบ่อนอุ้มไปรีดเงิน เพื่อหาข้อเท็จจริงและคลายข้อสงสัยแก่สังคมว่า เป็นบ่อนการพนันหรือโต๊ะสนุกกันแน่

หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในอาคาร ก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบเก็บภาพ ซึ่งก็พบว่ามีเพียงโต๊ะสนุกเกอร์ 5 โต๊ะ และในห้องวีไอพี มีโต๊ะสนุกเกอร์ส่วนตัวอีก 1 ห้อง ไม่พบอุปกรณ์เล่นการพนันแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวของเราได้นำภาพถ่ายของผู้เสียหายที่ถ่ายไว้ในช่วงที่เข้าไปเล่นพนันก่อนเกิดเหตุ ไปเปรียบเทียบกับบ่อนในปัจจุบัน พบว่ามีความคล้ายคลึงกันในหลายจุด เช่น การติดตั้งระบบไฟแอลอีดีบนผนังเพดาน จุดที่ติดตั้งโทรทัศน์ และตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ติดอยู่บริเวณฝาผนัง แต่ไม่มีโต๊ะพนันและเก้าอี้แล้ว ถูกแทนที่ด้วยโต๊ะสนุกเกอร์ ช่วงระหว่างเวลาตั้งแต่ผู้เสียหายร้องเรียนเรื่องที่เกิดขึ้น จนถึงช่วงที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ รวมแล้วประมาณ 24 ชั่วโมง เท่านั้น 

ผู้ดูแลสถานที่ อ้างว่า มาทำงานที่โต๊ะสนุกเกอร์แห่งนี้ได้เพียง 1 เดือน ซึ่งเปิดให้บริการโต๊ะสนุกเกอร์เพียงอย่างเดียว มีการเช่าสถานที่เดือนละ 35,000 บาท ไม่ใช่บ่อนการพนัน แต่ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้เป็นบ่อนการพนันหรือไม่

ในส่วนของผู้เสียหาย 4 คน จาก 5 คน ก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.โคกคราม ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของบ่อนและนักเลงคุมบ่อน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ไปเล่นที่บ่อนแห่งนี้ 4 ครั้ง มีได้มีเสียหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ยืนยันว่าไม่ได้โกงเจ้ามือ เพราะก่อนจะตัดสินใจจะไปเล่นที่บ่อนแห่งนี้ ก็ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าบ่อนแห่งนี้มีความน่าเชื่อถือ

ส่วนผู้เสียหายอีกคน บอกว่า ในกรุงเทพฯ มีบ่อนการพนันกว่า 100 แห่ง แต่ในย่านโคกคราม มีอยู่ 3 แห่ง ที่เคยไปเล่น มีเจ้าของเป็นคนจีน ที่ผ่านมาได้เดินสายเล่นพนันตามบ่อนต่าง ๆ มาตลอดชีวิต ไม่ต่ำกว่า 40 แห่ง ถือเป็นครั้งแรกที่มาเจอบ่อนที่หักลูกค้าแบบนี้

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า อยากให้ตำรวจตรวจสอบและดำเนินการกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ทั้งในส่วนของนักพนันและบ่อนการพนัน เพราะผู้เสียหายเองก็มีความผิดที่ไปเล่นพนัน ต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน ส่วนบ่อนการพนันตำรวจก็ต้องปราบปรามอย่างจริงจังเช่นกัน แต่ที่ข้องใจ คือ มีนายตำรวจระดับสูงของโรงพักโทรศัพท์ไปเจรจากับผู้เสียหาย แถมไม่ได้สอบถามถึงพฤติการณ์ที่ถูกคนร้ายกระทำ กลับไปสอบถามให้ความสำคัญว่า ผู้เสียหายโกงบ่อนจริงหรือไม่

ด้าน พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า มีการนำข้อมูลภาพถ่ายของบุคคลต้องสงสัย 3 คน มาให้ผู้เสียหายชี้ โดยระบุว่าเป็นเพียงคนคุมสถานที่ ไม่ใช่คนที่ทำร้ายร่างกาย ซึ่งตำรวจมีข้อมูลผู้ที่ร่วมก่อเหตุนี้แล้ว

อีกทั้งยังได้รับข้อมูลมาว่า เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีการแอบเปิดบ่อนพนันลักษณะคล้ายบ่อนวิ่งเป็นระยะเวลา 7 วัน ซึ่งคาดว่าภาพบ่อนที่ผู้เสียหายนำมาเป็นหลักฐานอาจเกิดในช่วงเวลาดังกล่าว

ส่วนที่ผู้เสียหายระบุว่า ในพื้นที่ สน.โคกคราม มีบ่อนพนันอีกหลายแห่ง ก็ได้สั่งการให้ตรวจสอบทันที สำหรับกรณีที่ผู้เสียหายระบุว่า ขณะถูกอุ้มไปรีดทรัพย์ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สน.โคกคราม ให้มาช่วยเหลือ แต่กลับถูกตัดสายไป ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกับตำรวจนายดังกล่าวแล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark