คลิปที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ : คนไทยหนี้พุ่ง ออมเงินลดลง

ประเด็นเด็ด 7 สี - ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ เปิดตัววันแรก ตรงกับวันออมแห่งชาติ พอดิบพอดี วันนี้ เราจะพาคุณผู้ชมไปสำรวจบัญชีเงินออมของคนไทยกัน

พาไปดู สถิติการออมเงินของคนไทย ปรากฎว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 การออมเงินของคนไทยก็เริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เราย้อนไปดูช่วงก่อนโรคโควิด-19 ระบาด ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบคนไทยมีสัดส่วนการออมเงิน คิดเป็น 74.1% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ส่วนภาคครัวเรือนที่ไม่มีการออม มีมากถึง 25.9% แต่วันนี้ จำนวนครัวเรือนที่ไม่มีการออมเงินเลย เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นมาก อย่างที่ทราบ ๆ กันดี เป็นเพราะปัญหารายได้ไม่เพียงพอรายจ่าย ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น แน่นอน ภาระหนี้สิน ไม่เพียงทำให้ความสามารถในการการชำระหนี้ลดลง ยังทำให้การออมถดถอยลงไปด้วย ถึงขนาดหลายคน หลายบ้าน ต้องนำเงินออมมาใช้หนี้ บางคนล้มเลิกการออมเงินไปเลยก็มี เพราะขาดแรงจูงใจ ทีนี้ ชวนคุณผู้ชมมาส่องบัญชีเงินฝากของคนไทยกันบ้าง

ข้อมูล จากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ เดือนมิถุนายน พบบัญชีคนไทย มีทั้งสิ้น 117 ล้านบัญชี รวมเงินฝาก 15.67 ล้านล้านบาท

โดยกลุ่มที่มีเงินฝากในบัญชี ไม่เกิน 50,000 บาท มีมากกว่า 103 ล้านบัญชี รวมเป็นเงินกว่า 430,000 ล้านบาท ส่วนที่มีเงินเกินกว่า 50,000 บาท มีกว่า 4.2 ล้านบัญชี เป็นเงินกว่า 298,000 ล้านบาท หรือจะมีเงินในบัญชีกว่า 100,000 บาท กลุ่มนี้มีกว่า 3.4 ล้านบัญชี รวมเป็นเงินกว่า 477,000 ล้านบาท และที่มีเงินเกินกว่า 200,000 บาท มีกว่า 3.2 ล้านบัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท ส่วนบัญชีที่มีเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 1.5 ล้านบัญชี รวมเงินกว่า 1.1 ล้านล้านบาท กลุ่มที่มีเงินเกิน 10 ล้านบาท มีมากถึง 104,000 บัญชี เป็นเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนที่เกินกว่า 25 ล้านบาทขึ้นไป มี 31,000 บัญชี รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านล้านบาท และที่เกินกว่า เกินกว่า 50 ล้านบาท มีอยู่กว่า 13,800 บัญชี รวมกว่า 960,000 ล้านบาท กระทั่งสูงที่สุด คือเงินในบัญชีมากกว่า 500 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 1,545 บัญชี รวมกว่า 2 ล้านล้านบาท

อย่างธนาคารออมสินก็เปิดตัวแอปพลิเคชัน โค้ชออม ซึ่งเป็นตัวช่วยวางแผนการออม ให้ประชาชนกันเลยทีเดียว ไปฟังรายละเอียดจาก ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกัน

ผมว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องเข้ามาเร่งเครื่อง แก้ปัญหาหนี้สินประชาชน และยกระดับรายได้ของคนไทยให้สอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพ ควบคู่กับการส่งเสริมการออม การลงทุน และรณรงค์ เพิ่มแรงจูงใจให้คนไทยให้ออมเงินในระยะยาว เพื่อลดความเดือดร้อน ที่กำลังเกิด และจะเกิดเพิ่มขึ้นในอนาคต

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark