ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

เตรียมเฮ! นายกฯ เผยข่าวดี คนไทยได้ดูถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก

เช้านี้ที่หมอชิต - อีกไม่ถึง 20 วัน ศึก World Cup 2022 หรือฟุตบอลโลก 2022 จะระเบิดขึ้นแล้ว ทั้งนี้ เพราะข่าวถ่ายทอดสดมหกรรมลูกหนังระดับโลกเงียบผิดปกติ เป็นเพราะไทยยังไม่ได้ลิขสิทธิ์ จนคอบอลกังวลจะได้ดูฟุตบอลโลกหรือไม่ ล่าสุด นายกรัฐมนตรีบอก "น่าจะได้ดูนะ"

เตรียมเฮ! นายกฯ เผยข่าวดี คนไทยได้ดูถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก
โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า "น่าจะได้ดูนะ" หลังถูกถามว่า คนไทยจะได้ดูถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกหรือไม่

ถือเป็นสัญญาณที่ดีในความคืบหน้าการถ่ายทอดสด มหกรรมฟาดแข้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติ ที่ครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ เพราะเหลือไม่ถึง 20 วัน ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้ลิขสิทธิ์หรือไม่ หลังภาคเอกชนไม่ยอมควักกระเป๋าจ่ายค่าลิขสิทธิ์ เพราะติดหลักเกณฑ์ของ กสทช. ในการหารายได้

ลุ้นเหนื่อย! ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก คนไทยได้ดูหรือไม่
สำหรับประเทศไทย ที่ไม่เคยมีทีมชาติเข้าร่วมฟาดแข้งในรอบสุดท้าย แต่ได้สัมผัสบรรยากาศ และการแข่งขันนี้แบบสด ๆ ผ่านจอทีวีมาตั้งแต่ปี 2513 ครั้งนั้น แม้ถ่ายทอดสดเพียงคู่เดียว แต่เป็นแมตช์ชิงชนะเลิศ ที่บราซิล ยุคเปเล่ ถล่มอิตาลี 4-1 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 และเป็นการถ่ายทอดสดในระบบทีวีสีครั้งแรก

นับแต่นั้น คนไทยได้ชมการถ่ายทอดสดทุก ๆ 4 ปี จนถึงฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี เริ่มถ่ายทอดสดครบทุกนัด เรียกเรตติงทีวีเพิ่มเป็นทวีคูณ เมื่อกระแสบูมแบบนี้ทำให้ปี 2002 ฟุตบอลโลกที่ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกที่เอกชนซื้อลิขสิทธิ์และถ่ายทอดสดแบบเต็มอิ่มครบทุกนัด แลกกับการหารายได้แบบเต็มที่ กระแสฟุตบอลโลกคักคักแบบสุด ๆ เม็ดเงินสะพัดจากอีเวนต์ต่าง ๆ นับแต่นั้น เอกชนเสนอตัวซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมาตลอด

ถึงยุคทีวีดิจิทัล ฟุตบอลโลก 2014 มีจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อเอกชนผู้ถือลิขสิทธิ์ ประกาศแผนถ่ายทอดสดฟรีเพียง 22 แมตซ์ ที่เหลือต้องซื้อกล่องสัญญาณรับชม

แผนนี้ถูกสกัดโดย กสทช. ที่ออกกฎเหล็ก Must Have และ Must Carry ให้การถ่ายทอดสดกีฬาหลัก ๆ ต้องฟรีทีวีเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียม ทั่วถึง และไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มของประชาชน

กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ และส่งผลถึงลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2018 ที่ไม่มีเอกชนยอมทุ่มเงิน ภายใต้กฎ Must Have, Must Carry ที่เขามองว่าจำกัดช่องทางทำการตลาด ตอนนั้นคนไทยต้องลุ้นจนเหนื่อย หลังรัฐบาลใช้บารมีระดมเงินเอกชนร่วมลงขัน 1,400 ล้านบาทเพื่อถ่ายทอดสด

ครั้งนี้ เข้าอีหรอบเดิม เมื่อค่าลิขสิทธิ์ 1,500 ล้านบาท กับกฎเหล็กเช่นเดิม ซ้ำไม่แน่ใจว่าบารมีช่วงปลายรัฐบาลเช่นนี้ จะสามารถระดมทุนได้อีกหรือไม่ และเมื่อ พลเอก ประยุทธ์ และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขาใหญ่ในรัฐบาล ประกาศว่า คนไทยต้องได้ดูฟุตบอลโลก จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ก้องศักดิ ยอดมณี ต้องเร่งหาทางออก ซึ่งจะมีประเด็นขอยกเลิกกฎ Must Have, Must Carry เปิดทางเอกชนหารายได้หรือไม่ หรือใช้วิธีไหน 2-3 วันนี้ มีคำตอบ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark