นายกฯ ลั่นเป็นเจ้าภาพ APEC ท้าทายที่สุด

เช้านี้ที่หมอชิต - ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกครั้งนี้ ท่ามกลางปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และวิกฤตเศรษฐกิจ ถือเป็นความท้าทายอย่างที่สุด นับตั้งแต่เข้าร่วมเป็นสมาชิกมากว่า 30 ปี

เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกเชิญไปร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานประชุม Global Compact Network Thailand Forum หัวข้อ "เร่งหาทางออกของภาคธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนและวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพ" ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ งานนี้เป็นเวทีที่นายกรัฐมนตรี ได้โชว์วิสัยทัศน์ของประเทศ เพื่อรับมือกับปัญหาโลกร้อนร่วมกับนานาชาติ โดยชูโมเดล "การพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG" ขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจควบคู่กับการเยียวยารักษาธรรมชาติอย่างสมดุล ซึ่งเป็นหัวใจของเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมเอเปก หรือ ภายใต้ชื่อ "เป้าหมายกรุงเทพว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว" ที่ไทยจะเสนอระหว่างเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกกลางเดือนนี้

นายกรัฐมนตรี ยังบอกด้วยว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกของไทยในปีนี้ เป็นความท้าทายอย่างที่สุด เพราะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ที่ไทยต้องรักษาความสมดุลความเป็นกลาง สภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังการระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤตพลังงาน

และในระหว่างที่ นางสาวเพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี ยืนยันความพร้อมในการต้อนรับผู้นำออสเตรเลีย ที่ตอบรับเดินทางมาร่วมประชุมผู้นำเอเปกด้วยตนเองด้วย

นอกจากนี้ มีรายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะเปิดทำเนียบรัฐบาลให้การต้อนผู้นำ 4 ประเทศ ในฐานะแขกพิเศษ ในช่วงการประชุมเอเปก โดยวันที่16 พฤศจิกายน เป็นคิวของเวียดนาม วันที่ 17 พฤศจิกายน เป็นคิวของผู้นำฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง และผู้นำจีน นายสี จิ้นผิง ก่อนปิดท้ายวันที่ 18 พฤศจิกายน ด้วยซาอุดิอาระเบีย