เปิดโพสต์ล่าสุด เพจเส้นด้าย ถึงเด็กในมูลนิธิฯ ที่ จ.สมุทรสงคราม

เช้านี้ที่หมอชิต - ขณะเดียวกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเพจเส้นด้าย โพสต์เปิดเผยข้อมูลเพิ่มอีกมุมหนึ่ง เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่อยู่ในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก

โดยแอดมินเพจโพสต์ข้อความว่า "ยิ่งขุดก็ยิ่งเจอ โลกนี้ไม่มีความลับจะปิดบังยังไง วันหนึ่งความจริง ก็ต้องปรากฏออกมาอยู่ดี จากเหตุการณ์ #มูลนิธิคุ้มครองเด็ก มีการทารุณและใช้แรงงานเด็ก โดยมีการร้องเรียนผ่านมาทางเส้นด้าย ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ต่างๆ อาจยังคลุมเครือสำหรับบางคนอยู่ หลายคนมีความสงสัยในการกระทำของมูลนิธิคุ้มครองเด็กว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่??? เส้นด้ายอยากจะบอกว่า เราอาจจะเคยชินกับคำว่า "รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี" ทำให้มองว่าสิ่งที่มูลนิธิทำลงไปเป็นเพียงการสั่งสอน แต่ความจริงแล้ว เรื่องการตีทำร้ายร่างกายเด็ก ๆ เป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง เพราะยังมีอีกหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้เราไม่นิ่งเฉย เมื่อยิ่งขุดยิ่งคุ้ยก็ยิ่งเจอ"

พร้อมกันนี้ยังโพสต์ข้อความว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ส่งข้อความเข้ามาที่เพจของทีมงานเส้นด้ายเด็กและสตรี โดยติดต่อเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นน้าของเด็กที่อยู่ในมูลนิธิ 3 คน ก่อนหน้ามีความพยายามขอรับเด็กทั้ง 3 คน กลับไป แต่ทางมูลนิธิฯ ไม่ยินยอม เรื่องเริ่มต้นจากที่พี่สาวของผู้แจ้ง (แม่ของเด็ก ๆ 3 คน) ได้นำลูก ๆ ไปฝากไว้ที่มูลนิธิแห่งนี้ เนื่องด้วยผู้เป็นแม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ต่อมาแม่ของน้อง ๆ ให้ผู้เป็นน้าของเด็ก ๆ มารับน้องไปอยู่ด้วยทางมูลนิธิก็ปฏิเสธตลอด

ทางครอบครัวมีความพยายามเป็นอย่างมากในการจำเอาน้องทั้ง 3 คน กลับบ้าน เคยแจ้งความแล้ว ตัวแม่ที่อยู่ต่างประเทศวิดีโอคอลมาคุยมาถามตลอด น้องของน้อง ๆ ทั้ง 3 คน ได้รับหนังสือมอบอำนาจจากแม่น้องในการพาน้องกลับบ้าน แต่ไร้ความหมาย

นอกจากนี้ทางเพจเส้นด้าย ยังโพสต์ข้อความอีกว่า เมื่อเรื่องราวนี้ถูกตีแผ่ออกไป ความหวังของทุกคนกลับมาสว่างไสวอีกครั้ง ทางครอบครัวของน้องทั้ง 3 คน ได้รับรู้เรื่องราว ต้องการที่จะมารับน้องทั้ง 3 คนกลับบ้าน โดยได้รีบเดินทางมาจากจังหวัดนครสวรรค์ ในคืนนี้ หากทำสำเร็จ เชื่อว่าคืนนี้คงเป็นคืนที่สว่างยิ่งกว่าคืนไหน ๆ สำหรับครอบครัวของน้อง ๆ

จิตแพทย์เตือน วิธีลงโทษเด็ก ตีไม่ได้ผล
จิตแพทย์เตือนวิธีลงโทษเด็กดื้อ ไม่ควรตี เพราะยิ่งไม่ได้ผล และสร้างบาดแผลในใจให้เด็ก ๆ แนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองให้พูดคุยด้วยเหตุผล รับฟังเด็ก และไม่ด่วนตัดสินว่าเป็นความผิดของเด็ก

นายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต ได้ให้คำแนะนำถึงการดูแลเด็กที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ หรือดื้อเกินไปว่าพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็ก และวัยรุ่น ฉะนั้นผู้ใหญ่ต้องช่วยปรับ ช่วยสอน ที่สำคัญต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการทำโทษ เช่น การตี

พฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็ก ๆ แก้ได้ก่อนจะเกิดปัญหา คือ คือการทำความเข้าใจกับเด็กว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด ผู้ใหญ่จะต้องเป็นตัวอย่างดี และเมื่อสร้างกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกันแล้ว จะต้องบอกที่มาที่ไปด้วยว่าทำไมถึงต้องปฏิบัติตามนี้ จะช่วยลดพฤติกรรมไม่ดีได้

ส่วนวิธีการลงโทษเด็กก้าวร้าว หรือเด็กที่ทำผิดพลาด จะต้องมีการพูดคุย รับฟัง กันก่อน ต้องไม่ด่วนตัดสินใจ เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกว่าไม่มีใครรับฟัง ให้โอกาสเด็กได้อธิบายก่อน เมื่อพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว บทลงโทษที่เหมาะสม เช่น ตัด งด ลดของที่ชอบ หรือตัดสิทธิ์พิเศษต่าง ๆ ไม่ควรใช้วิธีการตี เพราะการลงโทษด้วยการตี ทำให้เจ็บแค่ช่วงสั้น ๆ แต่เด็กจะไม่เข้าใจ และไม่ได้ผล และยิ่งก่อให้เกิดพฤติกรรมรุนแรงเพิ่มขึ้นด้วย