คอลัมน์หมายเลข 7 : 1 ธ.ค. ย้ายศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สู่ความหวังใหม่ให้ชุมชน

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ติดตามต่อความคืบหน้าการสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งใหม่ จากเหตุโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู เพื่อลบภาพความโหดร้าย อาคารที่เกิดเหตุจะดำเนินการต่ออย่างไร อาคารเรียนใหม่จะเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยมากกว่าเดิมหรือไม่ ติดตามจากรายงาน

แม้เวลาล่วงเลยมาถึง 1 เดือนแล้ว สำหรับเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ วันนี้ที่ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ยังคงมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าไปดูแลชาวบ้านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพจิตที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด

อย่างกิจกรรมที่เห็นอยู่นี้ ได้รับความร่วมมือจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางนวัตสหศิลป์ อิมิลี่-ซากอย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรมศิลปะบำบัด เช่นการวาดภาพจากความรู้สึก การเคลื่อนไหวเพื่อความผ่อนคลาย และการเล่นดนตรีเพื่อจรรโลงจิตใจ ขณะเดียวกัน หน่วยงานพัฒนาสังคมในพื้นที่ก็ยังคงเฝ้าติดตามความเป็นอยู่ของครอบครัวเหยื่ออย่างใกล้ชิด

บรรยากาศในหมู่บ้านวันนี้แม้สภาพจิตใจจะเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่อีกหลายคนก็ยังคงหวาดผวา เด็กบางคนไม่กล้าไปโรงเรียน ผู้ปกครองบางคนไม่กล้าขับรถผ่านจุดเกิดเหตุ การรวมตัวของชาวบ้านลดน้อยลง บ้านช่องถูกปิดประตูหน้าต่างเร็วขึ้นเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ไม่วายมีกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนองขี่รถถืออาวุธสร้างสถานการณ์ให้ชาวบ้านเสียขวัญ

สิ่งที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปวด คือ อาคารเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เกิดเหตุ ในวันนี้ชาวบ้านไม่อยากเห็นมันอีกต่อไป แต่ในระเบียบราชการงบประมาณแผ่นดิน ไม่สามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย

อาคารเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งใหม่ ถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่ไกลกัน และเน้นย้ำว่าการออกแบบจะต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด

วันที่ 1 ธันวาคมนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จะกลับมาเปิดเทอมอีกครั้ง ในอาคารเรียนชั่วคราวซึ่งตั้งอยู่ในโรงเรียนมัธยม โดยจะซ่อมแซมใหม่ให้มีความปลอดภัย เช่น ติดประตูสองชั้นเสริมเหล็ก ติดกล้องวงจรปิด และรัดกุมเรื่องการเข้าออกของบุคคลภายนอกมากขึ้น เพื่อให้ความสูญเสียครั้งนี้ไม่เป็นเพียงรอยแผลที่เจ็บปวดหัวใจ แต่ต้องเป็นร่องรอยที่ย้ำเตือนว่าเหตุการณ์แบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีกเป็นเด็ดขาด