บุกค้นแหล่งเงินทุนนายทุนจีน พัวพันผับปาร์ตียา

ข่าวอาชญากรรม 9 พฤศจิกายน 2565 - ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจ ปูพรมค้นแหล่งกบดานและซุกเงิน รวมถึงผู้ให้การสนับสนุนนายทุนจีน ที่กระทำผิดในประเทศไทย ขณะที่ผู้ต้องหาและผู้เสียหายคดีตัดนิ้วนักธุรกิจชาวจีน เรียกค่าไถ่ 30 ล้านบาท ถูกส่งเข้าห้องกัก เตรียมผลักดันกลับประเทศ

นี่เป็นภาพปฏิบัติการเข้าค้นแหล่งกบดานและซุกเงิน รวมถึงผู้ให้การสนับสนุนนายทุนจีน ในการกระทำผิดในประเทศไทย ตั้งแต่ผับจินหลิง ย่านยานนาวา ห้วยขวาง และเมืองพัทยา ซึ่งวันนี้เป็นการเข้าค้นหลายจุดทั่วประเทศ โดยเริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เพื่อขยายผล และเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งเอกสาร และเส้นทางการเงิน

โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังเป็นการขยายผลจากทรัพย์สินของนายทุนจีน ซึ่งเป็นเพนต์เฮาส์หรู โดยพบว่า นายทุนจีน ทุ่มเงินซื้อแบบยกชั้น และหลายชั้น ในอาคารเดียว ซึ่งชื่อของผู้ครอบครอง มีความเกี่ยวโยงกับนายทุนจีน อักษรย่อ ตห. อายุยังน้อย แต่เป็นเจ้าของทรัพย์สินจำนวนมาก

ขณะที่แนวทางการสืบสวน กรณีการสวมสัญชาติของชาวจีน ตำรวจได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อตรวจฐานข้อมูลทะเบียนราษฏร์ หาความเชื่อมโยง โดยลงลึกตั้งแต่การได้บัตรประชาชน รวมทั้งเครือญาติและความเชื่อมโยงด้านนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้พบว่า กรณีของ "กู๋เอี๋ยว" มีการครอบครองบัตรประชาชน ครั้งแรกที่จังหวัดตราด เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องในการรับรองหลายฝ่าย และหลายคนเกษียณอายุราชการแล้ว

ส่วนความคืบหน้าในคดี อุ้มนักธุรกิจชาวจีนไปตัดนิ้วเรียกค่าไถ่ 30 ล้านบาท ที่เมืองพัทยา หลังจากมีการจับกุม นายต้าเต้า และนายถัง ไปก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ยังคงปฏิเสธ ทางด้านพันตำรวจเอก เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดตราด บอกว่า ตำรวจได้เพิกถอนวีซา และนำตัวเข้าห้องกักของ ตม. เพื่อเตรียมผลักดันกลับประเทศ ขณะที่นายเหริน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ที่ถูกตัดนิ้ว และถูกซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว และถูกส่งเข้าห้องกัก เพิกถอนวีซาและเตรียมส่งกลับประเทศเช่นกัน เนื่องจากพบว่า การได้วีซา มีความไม่ชอบด้วยกฏหมาย พร้อมกับขึ้นทะเบียน ห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรอีก