เร่งกู้ ซ่อมรางรถไฟ ชนรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกข้าวเปลือก จ.ลำพูน

เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าหน้าที่เร่งกู้หัวรถจักรและซ่อมแซมราง หลังประสบเหตุชนกับรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกข้าวเปลือก ที่จังหวัดลำพูน เคราะห์ดีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนผู้โดยสารได้ลำเลียงขึ้นรถทัวร์ส่งไปสถานีปลายทางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว 

เรียกได้ว่าเป็นนาทีระทึกเฉียดตายเลยทีเดียว เป็นภาพจากโทรศัพท์มือถือของผู้คนขับรถที่จอดต่อ ๆ กันมา เพื่อรอสัญญาณข้ามทางรถไฟ บันทึกภาพขณะรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกข้าวเปลือกจอดอยู่บริเวณทางข้ามรถไฟ โดยมีไม้กั้นทางรถไฟคาอยู่บนขอบตัวถังของตัวพ่วง แล้วขบวนรถไฟ ได้พุ่งชนเข้าอย่างแรง ทำให้ข้าวเปลือกที่บรรทุกมาไหลลงมากองอยู่บนพื้นถนน ส่วนหัวรถจักรได้ไหลไปตามทางประมาณ 50 เมตร ได้รับความเสียหายล้อตกจากราง

เหตุเกิดช่วงเที่ยงวานนี้ บริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟใกล้กับตลาดหล่ายสาย ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ตำรวจ สภ.แม่ทา พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบขบวนรถด่วน 51 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ดีเซล 4501 มีนายสมนึก หมื่นอาษา เป็นพนักงานขับรถไฟ ด้านหน้ารถไฟมีรอยถูกชนจนกระจกรถไฟแตก รวมถึงทำให้ล้อหน้าด้านซ้ายตกราง

คนขับรถพ่วง 18 ล้อ เล่าให้ฟังว่า ตนเองขับรถบรรทุกไปรับข้าวเปลือกมาจากจังหวัดเชียงใหม่พื่อนำไปส่งที่จังหวัดลำปาง เมื่อมาถึงทางข้ามรถไฟกำลังจะขับรถข้าม เปนจัวหวะไม้กั้นทางรถไฟ เลื่อนลงมา ตรงกลางตัวพ่วง จึงทำอะไรไม่ถูกเพราะกลัวไม้กั้นเสียหาย กระทั่งถูกรถไฟชนขาดสองท่อน เคราะห์ดีที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ด้าน ว่าที่ ร้อยตรีธีระศักดิ์ วังศรี หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ ป้องกันจังหวัดลำพูน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ระดมกำลังคนและเครื่องจักรมาทำการดึงออก คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงจะเปิดเดินรถได้ตามปกติ และเปิดถนนให้ประชาชนใช้เส้นทางได้ตามปกติ ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถขบวนดังกล่าวกว่า 250 คน ทางการรถไฟได้ขนถ่ายไปทางรถทัวร์ไปยังสถานีปลายทางจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมดแล้ว

ส่วนทางด้านคดี พนักงานสอบสวน สภ.แม่ทา ต้องเรียกคู่กรณีทั่งสองฝ่าย ทั้งคนขับรถพ่วง และรถไฟ มาสอบปากคำ พร้อมนำหลักฐานจากภาพบันทึกเหตุการ์มาประกอบ เพื่อทราบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายต่าง ๆ จะต้องมีการตกลงกัน และดำเนินการตามคดีตามกระบวนการทางกฏหมายต่อไป และช่วงค่ำที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่การรถไฟได้นำหัวจักรดีเซลมาลากโบกี้เปล่าออกจากจุดเกิดเหตุได้แล้ว พร้อมตรวจสอบสภาพรางรถไฟ ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ได้เปิดเดินรถไฟได้ตามปกติแล้วเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้