คืบหน้าคดีทำร้ายเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก จ.สมุทรสงคราม

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจเสนอปิดสถานสงเคราะห์คุ้มครองเด็กบ้านครูยุ่น ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามแล้ว ขณะเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการนำเด็กที่เหลืออีก 12 คน ออกจากบ้านเรียบร้อยแล้ว

คืบหน้าคดีทำร้ายเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก จ.สมุทรสงคราม
ความคืบหน้า กรณีตำรวจเข้าไปดำเนินคดีกับสถานสงเคราะห์เด็ก ซึ่งเป็น 1 ในสาขาของมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากปรากฏคลิปครูทำร้ายเด็กในบ้าน จนมีการแจ้งข้อกล่าวหาครูในคลิปดังกล่าวไปแล้ว 2 ข้อหาหนัก คือทำร้ายร่างกายเด็กและใช้แรงงานเด็ก พร้อมกับนำตัวเด็กบางส่วนออกมาจากบ้านพักดังกล่าว เพื่อไปอยู่ในความดูแลของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ปิดสถานสงเคราะห์บ้านครูยุ่น  จ.สมุทรสงคราม
เมื่อวานนี้ ตำรวจ หารือร่วมกับ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมพนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสงคราม, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเรื่องมูลนิธิคุ้มครองเด็กฯ โดยที่ประชุมมีมติเห็นควร เพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน บ้านคุ้มครองเด็ก 3 (บ้านริมน้ำ) ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 51 และ 52 ประกอบกับกฎกระทรวง พม. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์ฯ ข้อ 11(3) เนื่องจากผิดเงื่อนไข ที่มีการรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เข้ามาดูแลในมูลนิธิฯ

นอกจากนั้น ให้ พม.จังหวัดสมุทรสงคราม ร่างคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน บ้านคุ้มครองเด็ก 3 (บ้านริมน้ำ) เสนอรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ลงนามเรียบร้อยแล้ว  รวมทั้งให้ พม. เตรียมวางแผนเข้าไปแจ้งคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชนดังกล่าว และนำเด็กที่เหลืออยู่อีก 12 คน ออกมาดูแลในสถานสงเคราะห์เด็กของรัฐต่อไป
 
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นไปตามหลักฐานและข้อกฎหมาย ไม่ได้มีเป้าโจมตีผู้หนึ่งผู้ใด และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะคดีที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับครูยุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ช่วงประมาณ 22.00 น. เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเด็กที่เหลือทั้ง 12 คน ออกจากสถานสงเคราะห์ของครูยุ่นเรียบร้อยแล้ว