ปฎิเสธคนเข้าประเทศช่วง APEC แล้วกว่า 2,000 คน

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนการประชุมเอเปก 2022 จับกุมชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมายได้กว่า 2,000 คน และปฎิเสธบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศไปแล้วกว่า 2,000 คนเช่นกัน

พลตำรวจโท ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. แถลงว่า การระดมกวาดล้างอาชญากรรมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยจับกุมชาวต่างชาติที่อยู่ในไทยเกินกำหนด 785 คน คดีหลบหนีเข้าเมือง 1,249 คน  

คดีสำคัญคือจับกุมนายหลี่ อายุ 27 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับของตำรวจสากลในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 400,000 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท หลังตรวจสอบพบว่า ได้หลบหนีเข้ามากบดานที่บ้านเช่าย่านสุทธิสาร กรุงเทพฯ 

และจับกุมนายจาง สัญชาติไต้หวัน หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศฟิลิปปินส์ หลังถือหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาหลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทย แต่ระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจพบว่าเป็นหนังสือเดินทางของบุคคลอื่น ที่มีใบหน้าคล้ายกัน

นอกจากนี้ ยังได้ปฎิเสธคนเข้าเมืองไปแล้วกว่า 2,000 คน และยังไม่พบบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้ามเมือง โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นภัยความมั่นคงของประเทศคู่ขัดแย้งที่เข้ามาร่วมประชุมเอเปก

ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศมาและพักอาศัยตามสถานที่ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่มีข้อมูลทั้งหมดแล้ว หากเกิดเหตุต้องสงสัย สามารถเข้าไปดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศได้ทันที

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีการเผยแพร่ภาพภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้าประเทศ แออัดอยู่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง เรื่องดังกล่าวผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชี้แจงว่า ในช่วงนี้เช้าและช่วงบ่ายของแต่ละวัน จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งเป็นการเดินทางเข้ามาพร้อม ๆ กันหลายเที่ยวบิน ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไปเพิ่มที่เคาน์เตอร์ และสามารถคลี่คลายจนหมดภายในครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาในการตรวจสอบ 45 วินาทีต่อนักท่องเที่ยว 1 คน หากบุคคลที่มีปัญหาจะใช้เวลา เพิ่มขึ้นเป็น 1 นาที ถึง 1 นาที 15 วินาที ซึ่งถือเป็นปกติเหมือนกันกับในต่างประเทศ

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยนายภควัต ตันสกุล อธิบดีกรมพิธีการทูต กระทรวงต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมซักซ้อมขบวนรถยนต์ของผู้นำ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่จะเดินทางมาประชุมเอเปก 2022 ซึ่งเป็นการซักซ้อมตามแผนเส้นทางจริง เริ่มตั้งแต่สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังโรงแรมที่พัก และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยพลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ ย้ำว่า หลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศเรื่องการควบคุมพื้นที่รอบศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และโรงแรมที่พักผู้นำประเทศเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน จะทำให้พื้นที่ดังกล่าว ห้ามมีการชุมนุม ถ้ามีการละเมิด เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้ผู้ที่จะชุมนุมไปชุมนุมในสถานที่ที่จัดไว้ให้ 

ส่วนการปิดการจราจร ตำรวจนครบาลแจ้งว่า จะปิดการจราจร 24 ชั่วโมง เฉพาะถนนด้านหน้าและด้านหลังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และปิดการจราจรบริเวณเส้นทางที่พักของผู้เข้าร่วมการประชุม ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางผ่านไปในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องผ่านจุดตรวจมั่นคง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลกับผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ที่มีไม่น้อยกว่า 20,000 คน และคัดกรองไม่ให้นำอาวุธ หรือสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปในพื้นที่