ความต้องการเหรียญกษาปณ์เพิ่ม หนีกลลวงแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตั้งแต่คนไทยหันไปใช้รูปแบบการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ หรือ อีเพย์เมนต์ ทำให้ความต้องการใช้ธนบัตร และเหรียญกษาปณ์ทยอยลดลงอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายคาดว่าความต้องการคงจะปรับลดลงเรื่อย ๆ แต่ปรากฎว่า ปีนี้ ทีมข่าว 7HD ไปพบข้อมูลความต้องการใช้เหรียญกษาปณ์ กลับสูงขึ้น จากสาเหตุอะไร ติดตามจากรายงาน คุณปทิดา รื่นสุคนธ์

เมื่อการชำระเงิน ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะเพียงการใช้เงินสดเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้หลายคนชำระผ่านระบบออนไลน์ หรือ โมบายแบงก์กิ้ง ทำให้ยอดการใช้ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา

ตรวจสอบข้อมูลจากกรมธนารักษ์ พบว่า คนไทยใช้เหรียญกษาปณ์ลดลงปีละ 3.5% เฉพาะปีนี้มีเหรียญหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอยู่ ประมาณ 38,000 ล้านเหรียญ หากคำนวณตามมูลมูลค่าหน้าเหรียญ เท่ากับเงินหมุนเวียนในระบบอยู่กว่า 79,000 ล้านบาท เมื่อคาดการณ์กันว่าความต้องการใช้เหรียญมีแนวโน้มลดลง กำลังการผลิตก็ปรับลดลงตามไปด้วยประมาณปีละ 19%

ดูเหมือนการผลิต และความต้องการจะสอดคล้องกัน แต่ปรากฎว่า ปีนี้ประชาชน หันกลับมาใช้เหรียญกษาปณ์สูงขึ้นกว่าปกติ สาเหตุเป็นเพราะหลายคนเริ่มไม่เชื่อมั่นว่า การโอนเงินผ่านระบบออนไลน์จะปลอดภัย หรือเป็นการชะลอการตัดสินใจของตัวเอง ในการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ที่ทำได้รวดเร็วเหลือเกิน กระทั่งตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

มาดูการใช้ธนบัตรภายในประเทศกันบ้าง ช่วงระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ยอดใช้ธนบัตรลดลงปีละ 8-9% ปัจจุบันการใช้ธนบัตรลดลง ประมาณ 3% มีการตั้งข้อสังเกตุว่า ประชาชนต่างเก็บตุนธนบัตรสูงขึ้น มากกว่าที่จะนำออกมาจับจ่ายใช้สอย และส่วนหนึ่งยังคงมาจากการใช้และการเข้าถึงดิจิทัลอย่างก้าวกระโดดของประเทศไทยนั่นเอง