ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

รวบคนร้ายวิ่งราวทองคำ มูลค่าประมาณ 80,000 บาท

เช้านี้ที่หมอชิต - เกิดเหตุคนนร้ายวิ่งราวทองจากห้างทองรูปพรรณ ในจังหวัดเลย โดยเจ้าของห้างทองไม่ได้ทันระวัง เนื่องจากเป็นลูกค้าที่เคยมาซื้อทองหลายครั้ง คนร้ายได้ทองคำไป น้ำหนัก 2 บาท 50 สตางค์ รวมมูลค่าประมาณ 80,000 บาท สุดท้ายหลบหนีไปได้ไม่ไกลถูกตำรวจตามจับกุมได้แล้ว

ตำรวจ สภ.เชียงคาน จังหวัดเลย รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทองที่ห้างทองรูปพรรณ ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลธาตุ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ใกล้กับสามแยกบ้านธาตุ โดยได้ทองคำไป น้ำหนัก 2 บาท 50 สตางค์ รวมมูลค่าประมาณ 8 หมื่นบาท และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี จึงเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย เข้าเก็บหลักฐาน และลายนิ้วมือแฝง

นางสาวเสาวลักษณ์ ตุงคศิริวัฒน์ เจ้าของห้างทอง เล่าว่า คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี รูปร่างผอมสูง ได้ทำทีเข้ามาดูสร้อยคอ และแหวน ที่สั่งไว้เมื่อ 5 วันก่อน โดยคนร้ายไม่มีพิรุธแต่อย่างใด และในช่วงที่ผ่านมา คนร้ายเคยมาซื้อทองหลายครั้ง จึงไม่ได้ทันระวัง โดยขณะที่คนร้ายเลือกดูสร้อยคอกับแหวน ได้ทดลองสวมสร้อยคอกับแหวน จากนั้นคนร้ายได้เดินออกจากร้าน ก่อนไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ และขี่หลบหนีไป

ตำรวจ ระบุว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยาน ทำให้ทราบชื่อของคนร้าย คือ นายอภิชาติ อายุ 29 ปี เป็นชาวบ้านโป่ง พื้นที่ตำบลนาแขม อำเภอเมืองเลย ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียงกับตำบลธาตุ อำเภอเชียงคาน โดยมารดาขายของอยู่ที่ตลาด จึงได้ทำการสอบปากคำ มารดา โดยมารดายืนยันว่าเป็นลูกชายตนเอง แต่ถูกไล่ออกจากบ้านไปเป็นเวลานานแล้ว จึงใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญประกอบคดี และนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด

กระทั่งช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เชียงคาน ตามไล่ล่ากระทั่งไปเจอรถของคนร้ายจอดทิ้งไว้บริเวณสวนยางพาราซึ่งอยู่ห่างจากร้านทองที่เกิดเหตุไปประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นตำรวจได้ขยายผลต่อ โดยไปตรวจค้นที่กระท่อมของชาวบ้าน ห่างจากจุดที่คนร้ายจอดรถทิ้งไว้ประมาณ 4-5 กิโลเมตร ในที่สุดก็พบตัว นายอภิชาติ อายุ 29 ปี ป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณดังกล่าว แต่ทันทีที่เขาเห็นตำรวจถึงกับรีบวิ่งหลบหนี ไม่ยอมให้จับกุมตัวง่าย ๆ แต่สุดท้ายไม่รอดพ้นเงื้อมมือตำรวจถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้ ก่อนพาไปค้นหาของกลางสร้อยคอทองคำที่ชิงมาได้โดยนำไปซุกไว้ในพงหญ้า ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวคนร้ายส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เชียงคาน แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark