จอมโจร ไข่หมูก ถูกจับ บงการเรียกค่าคุ้มครองสวนทุเรียน จ.พัทลุง

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจสืบจากลายนิ้วมือจดหมายเรียกค่าคุ้มครองชาวสวนทุเรียน ก่อนจับจอมโจร "ไข่หมูก" อดีตโจรเรียกค่าไถ่ ปล้นทรัพย์ชื่อดังของภาคใต้ เมื่อหลายสิบปีก่อน แต่กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งขยายผลหาตัวลูกหลานที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดี

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการสืบสวนคดีคนร้ายทำลายต้นทุเรียนของเกษตรกรเกือบ 10 ราย ในตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจสืบสวนอย่างหนัก เพราะชาวบ้านเกรงกลัวอิทธิพล

กระทั่งมีการเข้าค้นบ้าน นายเจิม เส้งเอียด หรือ จอมโจร ไข่หมูก อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นจอมโจรเรียกค่าไถ่ชื่อดังในอดีต พร้อมนำสมุดเขียนของหลาน อายุ 16 ปี ส่งพิสูจน์หลักฐานเปรียบเทียบลายนิ้วมือ ก่อนผลตรวจยืนยันว่า ลายนิ้วมือตรงกับ จดหมายเรียกค่าคุ้มครองชาวสวนทุเรียน จึงนำตัวหลายนายเจิม ไปสอบสวนอีกครั้งจนรับสารภาพว่า นายเจิม เป็นคนสั่งการให้เขียนจดหมายเรียกค่าคุ้มครอง แล้วห่อด้วยถุงพลาสติกนำไปวางไว้ตามต้นทุเรียนในสวนทุเรียน

ตำรวจจึงนำหมายศาลจังหวัดพัทลุง เข้าจับกุม นายเจิม ได้ที่บ้านพักในตำบลลานข่อย ช่วงกลางดึกวันที่ 16 พฤศจิกายน โดยแจ้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์, ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นพืชหรือพืชผลของกสิกร และข้อหาบุกรุก แต่นายเจิมปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้สั่งการให้เร่งขยายผลหาตัวผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีเพิ่ม เพราะมั่นใจว่า มีลูกหลานนายเจิมอีกหลายคนจะมีส่วนร่วมก่อเหตุ

ทั้งนี้คดีดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงวันที่ 19-21 ตุลาคมที่ผ่านมา คนร้ายบุกเข้าไปในสวนทุเรียนเกษตรกรสวนทุเรียนเกือบ 10 ราย ก่อนปอกเปลือกโคนต้น ใช้น้ำกรด รดโคน พร้อมทิ้งจดหมายเรียกค่าคุ้มครอง ระบุข้อความว่า "พวกเราจะขอความช่วยเหลือ ถ้าหากไม่ด้ายตัวอย่างมีให้เห็น ไว้แล้วที่ต้นทุเรียน ถ้าไม่อยาก ให้ต้นทุเรียนตายหมดทั้งสวน ให้คุณไปติดต่อที่ลูกพี่กูได้เลย กูให้เวลาพวกมึงไม่เกิน 7 วัน เน้นไม่เกิน 7 วัน"

สำหรับ จอมโจร ไข่หมูก มีประวัติก่อเหตุข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ในพื้นที่ภาคใต้โชกโชน โดยเฉพาะคดีอาญา เคยตกเป็นผู้ต้องหา 7 คดี ประกอบด้วย ปี 2551 คดีทำให้เสียทรัพย์ พื้นที่ สภ.ท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, คดีทำให้ผู้อื่นเกิดควากลัวหรือความตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ พื้นที่ สภ.ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช, คดีทำให้เสียทรัพย์ สภ.รัษฎา จังหวัดตรัง, คดีกรรโชก สภ.เบตง จังหวัดยะลา ปี 2552 คดีเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมี ความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบ พื้นที่ สภ.เบตง กับคดีกรรโชก สภ.รัษฎา และปี 2564 คดีร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน สภ.ป่าพะยอม ซึ่งทุกคดีเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรมแล้ว หลังพ้นโทษก็วางมือ ก่อนจะบงการก่อเหตุอีกครั้ง