ประชุมเอเปก เตรียมลงนามปฏิญญากรุงเทพ
ข่าวภาคค่ำ - เวทีการประชุมเอเปกครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่การหารือเพื่อขยายการค้า การลงทุนเท่านั้น แต่ยังหารือถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เป็นผลสืบเนื่องจากสงครามในยูเครนด้วย
เวทีการประชุมผู้นำเอเปก ครั้งที่ 29 ที่เป็นการประชุมแบบพบหน้ากันครั้งแรกในรอบ 4 ปี มีเนื้อหาการหารือที่เข้มข้น เปิดกว้างให้สมาชิกเขตเศรษฐกิจได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง ตามหัวข้อหลักที่ตั้งไว้ คือ เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล โดยที่ประชุมได้หารือถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามยูเครน ที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และเกิดภาวะเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ประเด็นที่เกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ ผู้นำบางเขตเศรษฐกิจหยิบยกมาพูดในที่ประชุม เพราะเป็นสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และเกิดขึ้นอีกครั้งก่อนเริ่มการประชุมผู้นำเอเปก
ส่วนร่างเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ที่ไทยได้พยายามจะผลักดันนั้น ทุกเขตเศรษฐกิจต่างชื่นชม และมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งสหรัฐฯในฐานะประธานเอเปกในปีหน้า ระบุ จะเดินหน้าสานต่อ ส่วนไทยจะทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันเป้าหมายกรุงเทพฯให้บรรลุผล
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีการออกแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีในหลายประเด็น โดยเขตเศรษฐกิจส่วนใหญ่ได้ร่วมประณามสงครามในยูเครนอย่างรุนแรง และเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังออกจากยูเครน โดยสมบูรณ์และไม่มีเงื่อนไข ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับแถลงการณ์ของผู้นำกลุ่ม จี 20 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ ระบุว่า เวทีเอเปก ไม่ใช่เวทีที่จะแก้ปัญหาด้านความมั่นคง แต่สงครามดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก
หลังเสร็จสิ้นการประชุมในภาคเช้า บรรดาผู้นำและผู้แทนเขตเศรษฐกิจ ได้ร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการในระหว่างการรับประทานอาหารกลางวัน กับแขกพิเศษ คือ มกุฎราชกุมาร นายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ หัวข้อ "การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืนระหว่างเอเปกกับหุ้นส่วนด้านการค้า"
โดยมีหลายเขตเศรษฐกิจ ส่งตัวแทนเข้าร่วมหารือแทน อาทิ จีน และสหรัฐฯ ขณะเดียวกันอีกหลายเขตเศรษฐกิจก็ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วม โดยวงหารือนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องวิธีส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุม ท่ามกลางความท้าทาย จากภาวะเงินเฟ้อ ความมั่นคงทางอาหาร และพลังงาน ซึ่งทั้งซาอุดีอาระเบียและฝรั่งเศส ต่างพร้อมสร้างความมั่นคงร่วมกับกลุ่ม APEC ทั้งด้านการค้า การลงทุน และพลังงาน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการประชุมครั้งนี้ สื่อมวลชนต่างชาติให้ความสนใจอย่างมากต่อการเดินทางเข้าร่วมประชุมของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน หลังจากเมื่อวานนี้ ได้หารือทวิภาคีกับผู้นำหลายชาติ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค ทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจีนไทเป และประเด็นความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ และยังมีรายงานด้วยว่า ทันทีที่เสร็จสิ้นการประชุมเอเปกที่ไทย นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมจะเดินทางไปเยือนเกาะปาลาวัน ของฟิลิปปินส์ ที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ ที่มีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
