เรือสำราญลำแรกเทียบท่าเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เช้านี้ที่หมอชิต - เรือสำราญที่เดินทางมาจากประเทศกรีซ จอดแวะให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้มาท่องเที่ยวพักผ่อนบนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี ช่วยสร้างรายได้ประมาณ 1.5 ล้านบาท

ที่ท่าเทียบเรือบ้านหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย จัหงวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน และผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางมากับเรือสำราญจากประเทศกรีซ มาจอดแวะให้นักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยวพักผ่อนบนเกาะสมุย ภายใต้แคมเปญ "Samui Always Warm" ซึ่งเป็นเรือลำแรก ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่ากลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยมีแจกของที่ระลึก และการแสดงรำมโนราห์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และมีการบันทึกภาพเป็นที่ระลึก จากนั้นนักท่องเที่ยวได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะสมุย และเกาะพะงัน หลายแห่ง อาทิ วัดพระใหญ่ วัดแหลมสุวรรณาราม หาดเฉวง และหมู่เกาะอ่างทอง 

รวมทั้งท่องเที่ยวชุมชนตลาดบ้านหน้าทอน เป็นการช่วยกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบในท้องถิ่น ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านนวด และสปา ได้เป็นอย่างดี โดยการท่องเที่ยวครั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวจากประเทศในแถบยุโรป ขึ้นมาท่องเที่ยวบนเกาะสมุย จำนวนประมาณกว่า 500 คน ซึ่งเชื่อว่า มีการจับจ่ายซื้อสินค้าเฉลี่ยคนละ 2,000-3,000 บาท คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวประมาณ 1.5 ล้านบาท 

นางศุภากาญจน์ ยอดฉุน ผู้อำนวยการการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเกาะสมุย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เรือสำราญได้กลับมาให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะสมุย เป็นจุดหมายอีกแห่งหนึ่ง ที่เรือสำราญนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว

นอกจากนี้ เกาะสมุยยังจะมีโอกาสได้ต้อนรับเรือสำราญอีก 1 ลำ ที่จะนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย ตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ไปจนถึงจนถึง เดือนพฤษภาคม 2566 จึงคาดว่า ในปีหน้า ตลาดการท่องเที่ยวในรูปแบบของเรือสำราญ จะทยอยกลับมาสร้างสีสัน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เกาะสมุย และเกาะพงัน เนื่องจากเส้นทางเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายการเดินทาง และมีชื่อเสียงอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ