สุดทน ถูกเพื่อนบ้านหัวร้อนระราน นาน 5 ปี แจ้งตำรวจช่วยห้ามปราม จ.มหาสารคาม
เช้านี้ที่หมอชิต - ที่จังหวัดมหาสารคาม มีเหตุการณ์ของชายสูงอายุคนหนึ่ง ซึ่งมักจะเกิดอาการหัวร้อนทุกครั้งที่มีคนนำรถยนต์ไปจอดแถว ๆ หน้าบ้าน แม้ว่ารถคันดังกล่าวจะจอดอยู่คนละฝั่งกับบ้าน ก็ยังสร้างความไม่พอใจอยู่ดี
กล้องวงจรปิดของหอพักในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม จับภาพของชายสวมเสื้อสีเหลือง เดินถือค้อนปอนด์ออกมาจากบ้านพัก เข้าไปทุบที่เสาเหล็กหน้าหอพักที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเสาดังกล่าว มีแผงกดปุ่มเปิดประตูเข้า-ออก หอพักติดตั้งอยู่
อีกคลิปหนึ่งในมุมเดียวกัน จะเห็นชายซึ่งเป็นเจ้าของหอพัก ไปยืนอยู่กลางถนน เพื่อขอให้ชายเสื้อเหลืองออกมาพูดคุยกันดี ๆ แต่พอชายเสื้อเหลืองออกมา ก็เดินปรี่เข้าหาในลักษณะคุกคาม ด้วยการกางแขนทั้งสองข้างออก และเดินต้อนชายเจ้าของหอพักจนต้องถอยหลังหนี และไม่ได้ตอบโต้อะไร
และคลิปสุดท้าย เป็นคลิปที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ จะเห็นชายเสื้อสีแดง ขับรถไปจอดไว้กลางถนนหน้าคลินิกแห่งหนึ่ง ก่อนจะลงจากรถมาตะโกนด่าทอเจ้าของหอพัก ซึ่งก็เป็นเจ้าของคลินิกดังกล่าว โดยด่าทออยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนจะขับรถออกไป
คลิปที่ 1 และคลิปที่ 2 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดต่อเนื่องกัน ส่วนเหตุการณ์ตามคลิปที่ 3 เกิดขึ้นภายหลังจากที่เจ้าของหอพัก นำคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล เพื่อแฉพฤติการณ์ของชายหัวร้อนที่ก่อเหตุ และเพื่อเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวัง ทำให้ชายหัวร้อนไม่พอใจ ไปตะโกนด่าทอเจ้าของหอพัก อยู่ที่หน้าคลินิกดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ นายนรากร แสนศิลา ชายหนุ่มที่อยู่ในคลิป ซึ่งเป็นเจ้าของหอพัก และคลินิกที่ชายหัวร้อนไปก่อเหตุ บอกว่า ชายที่ก่อเหตุ ไม่ชอบให้ใครนำรถยนต์ไปจอดแถว ๆ หน้าบ้านพัก และจะหัวร้อนทุกครั้งที่มีรถมาจอด โดยจะแสดงพฤติการณ์เช่นนี้มานานแล้ว จนคนบ้านใกล้เรือนเคียงรู้ และพากันเอือมระอา ส่วนต้นเหตุที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เป็นเพราะคืนก่อนหน้านั้นวันหนึ่ง มีเพื่อนของลูกชาย นำรถไปจอดริมถนนฝั่งเดียวกับหอพัก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของชายคนดังกล่าว ทำให้ไม่พอใจ เดินออกมาถีบเสาเหล็กหน้าหอพัก 2 ครั้ง จนต้องบอกให้เพื่อนลูกชายย้ายรถออกไปจอดที่อื่น ตนเองทนสภาพแบบนี้มา 5 ปีแล้ว แรก ๆ ก็ไม่อยากมีปัญหากัน ก็พยายามจะปล่อย ๆ ไป แต่ครั้งนี้ กลับถูกผู้ก่อเหตุระราน คุกคามหนักขึ้น ก็เลยไม่ทนแล้ว ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อให้ตำรวจมาช่วยห้ามปราม
ส่วนตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม หลังรับแจ้งความก็ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และแนะนำให้ นายนรากร พูดคุยปรับความเข้าใจกับผู้ก่อเหตุ พร้อมกับนำตู้แดงไปติดตั้งไว้เพื่อให้ตำรวจสายตรวจ เข้าไปตรวจตราบ่อย ๆ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอีกครั้ง ตำรวจจะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ ต่อไป
