คอลัมน์หมายเลข 7 : เจาะสัญชาติไทย ตู้ห่าว กับข้อครหา อำนาจรัฐหนุนหลัง?
ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ตามติดประเด็นร้อนการได้มาซึ่งสัญชาติของ "ตู้ห่าว" หนึ่งในนักทุนจีนสีเทา ที่ถูกเชื่อมโยงว่า ได้รับอนุญาตจากปลายปากกาของ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จนถูกเชื่อมโยงมีอำนาจรัฐหนุนหลังหรือไม่ หลักเกณฑ์การให้สัญชาติไทยเป็นอย่าง หาคำตอบเรื่องนี้กับ คุณมะลิ แซ่ฉิ่น
ตกอยู่สปอตไลต์อีกครั้ง สำหรับ บิ๊กป๊อก พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังโลกออนไลน์เปิดเอกสาร เป็นผู้ลงนามให้สัญชาติไทยกับ ตู้ห่าว หรือ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หนึ่งในห้าทุนจีนสีเทา ที่ถูกเชื่อมโยงว่า พัวพันกับอดีตรัฐมนตรี มีอำนาจรัฐอยู่เบื้องหลัง จนปลัดกระทรวงมหาดไทย นั่งไม่ติด ต้องออกมาชี้แจงขั้นตอนการให้สัญชาติของทุนจีนสีเทารายนี้ โดยยืนยัน การอนุมัติเป็นไปตามขั้นตอน
เริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 จากการยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ต่อกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ กรณีเป็นสามีของบุคคลสัญชาติไทย โดยการพิจารณาเป็นไปตามขั้นตอน และผู้เกี่ยวข้องได้ให้ความเห็น ส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณา ตั้งแต่ก่อนที่ พลเอก อนุพงษ์ จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในล็อตนั้นไม่ได้มีเพียง ตู้ห่าว เท่านั้นที่ได้สัญชาติไทย แต่ยังมีชาวต่างชาติอีก 11 คน ได้รับอนุมัติให้แปลงสัญชาติด้วย
ส่วนกรณีมีการนำเรื่องที่ ตู้ห่าว ได้สัญชาติไทย ไปเปรียบเทียบกับ โคชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย ที่กว่าจะฝ่าด่านได้สัญชาติไทย ก็ใช้เวลาสะสมผลงานเกือบ 20 ปี แต่ทำไม ตู้ห่าว จึงได้สัญชาติไทยง่ายดาย
เรื่องนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า เทียบกันไม่ได้ เพราะ ตู้ห่าว ได้สัญชาติไทยจากการมีภรรยาเป็นคนไทย อย่างไรก็ตาม แม้ได้สัญชาติแล้ว หากกระทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อและนามสกุลกี่ครั้ง ระบบออนไลน์ก็จะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งหมด
จากการตรวจสอบในฐานข้อมูลของราชกิจจานุเบกษา พบว่าในแต่ละปีโดยเฉลี่ย จะมีผู้ได้รับการเปลี่ยนแปลงสัญชาติหลักสิบ ซึ่งถือว่า ยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับจำนวนชาวต่างชาติที่สมรสอยู่กับชาวไทย และมีบุตรอยู่บนผืนแผ่นดินไทย
แม้จะมีคำถามเกี่ยวกับการให้สัญชาติผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมาย แต่คงไม่สามารถเหมารวม หรือนำไปเป็นเกณฑ์ในการตัดสิทธิ์คนต่างชาติที่รักและอยากได้สัญชาติไทย เพื่อร่วมพัฒนาประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลไกราชการ การใช้อำนาจรัฐ ต้องถูกตรวจสอบได้ว่า มีนอก มีใน ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่
กรณีของ ตู้ห่าว เคยถูกตรวจสอบสัญชาติเป็นครั้งแรก ระหว่างที่มีการตรวจสอบทัวร์ศูนย์เหรียญ และมีรายงานว่า ในช่วงปี 2560 หลังจากได้สัญชาติไทยเพียง 3 ปี ตู้ห่าว ได้จดทะเบียนหย่ากับภรรยาชาวไทย
ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองการต่างประเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนการจะเพิกถอนสัญชาติไทยนั้น ยังต้องรอกระบวนการพิจารณาคดีให้จวบจนศาลฯ พิพากษาว่ามีความผิด และคดีถึงที่สุดก่อน จึงจะดำเนินการได้
