ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ : SMART CITY หนุนคนไทยรายได้สูงขึ้น

ประเด็นเด็ด 7 สี - เมืองอัจฉริยะ ประเทศไทยเราพูดถึงเรื่องนี้กันมาสักพัก เชื่อกันว่า หากเกิดขึ้นทั่วประเทศ ประชาชนจะใช้ชีวิตง่ายขึ้น และหวังกันว่า รายได้ของเราจะสูงขึ้นด้วย ติดตาม เมืองอัจฉริยะ ในประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ

เมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City เชื่อกันว่า เป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่จะทำให้เราก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง รัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่เมือง ถึงขั้นกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

การนำเทคโนโลยี นวัตกรรม มาช่วยพัฒนา อำนวยความสะดวก หรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น บนศาสตร์การบริหารพื้นที่อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ตามแนวทางที่แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีกำหนดไว้ ซึ่งรัฐบาลยังได้ประกาศการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ SMART CITY เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อนำพาประชาชนไปสู่ความอยู่ดีมีสุข ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ซึ่งขณะนี้ ประเทศไทยมีพื้นที่ SMART CITY แล้วกว่า 30 พื้นที่ ใน 23 จังหวัด เช่น สามย่านสมาร์ตซิตี, เมืองอัจฉริยะจังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งยะลาเมืองอัจฉริยะ คาดว่า จะสร้างโอกาสด้านการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท

การจัดอันดับ เมืองน่าอยู่ด้านเทคโนโลยี หรือ SMART CITY บนโลกใบนี้ 5 อันดับแรก โดยอันดับที่ 1 ใกล้ ๆ กับบ้านเรา นั่นก็คือ สิงคโปร์ ที่นี่จะมีการนำเทคโนโลยี มาอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ทั้งด้านสาธารณูปโภค ด้านการบริหารจราจร โดยมีศูนย์กลางดูแลและสั่งการระบบอย่างเป็นรูปธรรม อันดับที่ 2 คือ เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 3 เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ส่วนอันดับ 4 เมืองไทเป ของไต้หวัน และ อันดับ 5 เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกเช่นกัน

แต่ละปีการเติบโตของเมืองอัจฉริยะในโลก จะไม่น้อยกว่า 18.4% ซึ่งทางลัดที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น SMART CITY ได้อย่างรวดเร็ว คือการจัดงาน "Thailand Smart City Expo 2022" ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเฉพาะด้าน เกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่จะตอบโจทย์บริบทของพื้นที่ และความต้องการของประชาชน ให้ผู้บริหารเมือง ทั้งระดับประเทศ จังหวัด และชุมชน คาดว่า จะมีผู้ร่วมงานไม่น้อยกว่า 8,000 คน เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ การพัฒนากำลังคน สู่ยุคดิจิทัลก็สำคัญด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมาสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เป็นหน่วยงานแรก ๆ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน ผู้สูงวัย กลุ่มเปราะบาง ให้เกิดความรู้ความเข้าใจด้านดิจิทัลได้ไม่น้อยกว่า 9 ล้านคน ขณะนี้ มีชุมชนที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมากถึง 281 ชุมชน, นักเรียนสามารถเข้าถึงทักษะด้านโค้ดดิงมากกว่า 4.2 ล้านคน แผนจากนี้ คือเร่งยกระดับภาคเศรษฐกิจสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ โดยสร้างดิจิทัลสตาร์ตอัปสัญชาติไทย 142 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 16,000 ล้านบาท

ดีป้า ยังได้ประกาศแผนการดำเนินงานในปีหน้า ภายใต้แนวคิด "DIGITAL INFINITY ดิจิทัลไม่มีที่สิ้นสุด" มุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลรอบด้าน จะเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศไทย และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น เชื่อว่า ไม่นาน เราจะกลับมาเป็นเสือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้ง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark