ลูกสาวอายุ 28 ปี ถูกพ่อล่ามโซ่ ยันไม่แจ้งความ

เช้านี้ที่หมอชิต - ลูกสาวอายุ 28 ปี ที่ถูกพ่อแท้ ๆ ล่ามโซ่และทำร้ายร่างกาย ภายในห้องเช่าย่านหนองจอก ยืนยันไม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะไม่อยากให้พ่อต้องถูกรับโทษทางกฎหมาย

หลังจากที่ทีมงานสายไหมต้องรอด เข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวอายุ 28 ปี ภายในห้องเช่า ซอยโต๊ะกู 1 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยหญิงสาวคนดังกล่าวถูกพ่อแท้ ๆ ล่ามโซ่และทำร้ายร่างกาย อยู่ในสภาพอิดโรย ใบหน้าเขียวช้ำ ปากแตก ที่ข้อเท้าข้างซ้ายถูกล่ามด้วยโซ่ จึงเข้าให้การช่วยเหลือ

หญิงสาวเล่าให้ฟังว่า คนที่ล่ามโซ่คือ พ่อแท้ ๆ ของเธอ สาเหตุเป็นเพราะพ่อไม่ต้องการให้เธอมีแฟนใหม่ หลังจากแยกทางกับสามีที่คบกันมากว่า 9 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ที่เธอแยกทางกับสามีเป็นเพราะว่า สามีไม่ให้เกียรติเธอ ชอบด่าว่าด้วยคำพูดที่หยาบคายและรุนแรง หนักสุดคือแอบไปคบหาและมีอะไรกันกับเพื่อนข้างห้องตอนเธอตั้งครรภ์ลูกคนเล็ก เธอทนไม่ไหว ตัดสินใจขอหย่าขาดกับสามี แต่สามีกลับไม่ยอมเซ็นต์ใบหย่า เธอจึงออกไปเช่าห้องอยู่ตามลำพัง หลังผ่านไป 2 เดือน เธอมีเพื่อนชายที่เข้ามาพูดคุยด้วย เมื่อสามีทราบเรื่องก็เกิดอาการหึงหวง ไปตามพ่อของเธอมาบังคับพาเธอกลับไปอยู่ด้วย ด้วยความที่พ่อเป็นคนหัวโบราณ บอกเพียงว่าต้องกลับไปคบกับอดีตสามีเท่านั้น เธอจึงปฏิเสธ จากนั้นพ่อได้เข้ามาตบที่ใบหน้าเธอหลายครั้ง และลากกลับมาที่ห้องเช่าของพ่อ ทำการล่ามโซ่เธอเอาไว้เป็นเวลา 2 วัน โดยมีแม่เป็นคนนำอาหารมาให้ เพื่อรอให้สามีมารับเธอกลับไปอยู่ด้วย เธอจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือไปยังเพื่อนข้างห้อง จากนั้นจึงได้ให้ประสานเพจสายไหมต้องรอดเข้าให้การช่วยเหลือ

ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า เรื่องดังกล่าวจบแล้ว โดยได้พูดคุยทำความเข้าใจกับพ่อของหญิงสาวว่า การล่ามโซ่และทำร้ายร่างกายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถกระทำได้ แม้ว่าจะเป็นพ่อลูกกันก็ตาม อยากให้พ่อเคารพการตัดสินใจของลูกสาว อยากให้พูดคุยกันในครอบครัวว่า ที่ผ่านมาลูกสาวต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง ทำไมถึงต้องตัดสินใจหย่ากับสามี อีกทั้งปัจจุบันลูกสาวอายุ 28 ปีแล้ว ควรปล่อยให้ได้ตัดสินใจมีชีวิตที่เป็นของตัวเอง

ส่วนหญิงสาวไม่ประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อของเธอ เพราะไม่อยากให้พ่อต้องถูกรับโทษทางกฎหมาย หลังจากนี้เธอจะกลับไปอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าของเธอ