ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สิ้นลาย มือปืนบุกยิงถล่มบ้านสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีที่เพจสายไหมต้องรอด พานักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพะเยา เข้าร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ หลังเจอเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านพัก จนเกิดความกังวลว่าคนในบ้านจะไม่ได้รับความปลอดภัย

ผู้เสียหายในคดีนี้ คือ นายนิคม ทุ่นใจ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2565 เคยเกิดเหตุถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ บริเวณลำคอ ตำรวจเพิ่งออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยเป็นครั้งที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นผ่านมาอีกเกือบ 1 เดือน เวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน มาเจอเหตุการณ์ถูกปองร้ายซ้ำอีก โดยคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าบ้านแล้วรัวยิงปืน ไม่ต่ำกว่า 5 นัด เข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งจากพฤติการณ์เชื่อว่าคนร้ายตั้งใจมาเอาชีวิตตน หรือไม่ก็คนในบ้าน แต่เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต มีเพียงทรัพย์สินเสียหายหลายอย่างเช่น รถกระบะถูกกระสุนปืนยิงทะลุหม้อน้ำรถยนต์, บานกระจกหน้าบ้าน และหลังคาสังกะสี มีรอยถูกยิง จนเป็นรู หลังเกิดเหตุ นายนิคม แจ้งความไว้ที่ สภ.เชียงคำ โดยทราบว่าตำรวจเจ้าของคดีรวบรวมหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด จนพบเบาะแสคนร้ายแล้ว แต่ยังจับตัวใครไม่ได้ 

ด้วยกลัวว่าคนร้ายจะย้อนมาก่อเหตุซ้ำ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาได้เข้ารับคำปรึกษากับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นพากันเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือกับ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำให้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา นายนิคม ผู้เสียหาย ได้รับความช่วยเหลือคุ้มครองพยาน จากยุติธรรมจังหวัดพะเยา และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ

กระทั่งเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) พันตำรวจเอก เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผู้กำกับการ สภ.เชียงคำ ออกมายืนยันว่าชุดสืบสวน สภ.เชียงคำ สามารถตามจับตัวผู้ก่อเหตุในคดีนี้ได้แล้ว โดยคนร้ายมีด้วยกัน 2 คน คนแรกเป็นมือปืน ชื่อ นายวิเชียร อายุ 36 ปี และอีกคนหญิงอายุ 23 ปี แฟนสาวของมือยิง ทั้งคู่ถูกตามจับได้ที่บ้านพัก จากการตรวจค้นทั้งในและนอกบ้านพบอาวุธปืนสั้นขนาด จุด 38 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 20 นัด ถูกฝังไว้ใต้ดินดานหลังบ้าน ส่วนเสื้อผ้าที่สวมในวันก่อเหตุหาไม่พบ นายวิเชียร อ้างว่า หลังจากก่อเหตุเสร็จได้นำไปเผาทำลายแล้ว นอกจากนี้ตำรวจยังตามไปยึดรถจักรยานยนต์คันที่ขี่ไปก่อเหตุได้อีกคัน โดยผู้ก่อเหตุนำไปซุกซ่อนไว้ในบ้านของคนรู้จัก

พันตำรวจเอก เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผู้กำกับการ สภ.เชียงคำ เผยว่า จากการแค้นสอบ ผู้ก่อเหตุ อ้างว่าทำไปเพราะความแค้นเรื่องส่วนตัว แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งในประเด็นนี้จะต้องสอบสวนเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้ พันตำรวจเอกเฉลิมชาติ ได้ถือโอกาสชี้แจงถึงเรื่องที่ฝั่งผู้เสียหายพาดพิงว่า ตำรวจทำงานล่าช้า ขอยืนยันว่าตำรวจทำตามขั้นตอนตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการรวบรวมพยานหลักฐานต้องรอบคอบรัดกุม โดยนำหลักฐานที่ได้มาพิเคราะห์ควบคู่กับการใช้นิติวิทยาศาสตร์มาช่วยสแกนหาตัวผู้ก่อเหตุ ถ้าหลังจากนี้สืบสวนสอบสวนทราบว่า มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังในการก่อเหตุดังกล่าว ตำรวจดำเนินการจับกุมไม่ปล่อยให้ผู้กระทำความผิดลอยนวลแน่นอน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark