ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

จับหมอกระเป๋า รับจ้างฝังมุกอวัยวะเพศชายติดเชื้อ

ข่าวอาชญากรรม 8 ธันวาคม 2565 - ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจ บก.ปคบ.นำหมายศาลไปจับกุม หมอกระเป๋า ที่เปิดเพจเฟซบุ๊กให้บริการรับฝังมุกเสริมขนาดอวัยวะเพศชาย หลังทำให้ผู้เสียหายเกิดการติดเชื้อรุนแรง อวัยวะเพศใช้การไม่ได้ จนคิดสั้นเกือบจะฆ่าตัวตายสำเร็จ

จับหมอกระเป๋า รับจ้างฝังมุกอวัยวะเพศชายติดเชื้อ
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. พร้อมด้วยตัวแทนจาก กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ร่วมกันจับกุม นายอภิชาต อายุ 41 ปี พร้อมของกลางอุปกรณ์ที่ให้บริการฝังมุก และเสริมขนาดอวัยวะเพศชาย หลังไปจับกุมตัวได้ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

พันตำรวจเอก เนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 บก.ปคบ. ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่า ไปใช้บริการกับชายคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นแพทย์ ที่ประกาศให้บริการผ่าตัดฝังมุก เสริมซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์ที่อวัยวะเพศชายผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่หลังจากใช้บริการไปแล้วกลับพบว่า แผลที่ผ่าตัดเกิดการอักเสบ ติดเชื้อรุนแรง มีหนองไหลออกมา ซ้ำยังทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ จึงเกิดความเครียดเป็นโรคซึมเศร้า และเคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ

ส่วนการสอบสวน นายอภิชาติ รับว่า ตนเองไม่ใช่แพทย์ ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม อาศัยว่าเคยทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ในคลินิก ใช้การเรียนรู้แบบครูพักลักจำแล้วนำมาประยุกต์กับความรู้ที่ศึกษาเอง ก่อนจะไปเปิดเพจเฟซบุ๊กให้บริการ โดยจะนัดหมายลูกค้าไปทำการผ่าตัด ตามโรงแรมม่านรูด หรือห้องพักรายวัน คิดค่าใช้จ่ายครั้งละ 15,000 - 20,000 บาท ซึ่งทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งนานกว่า 5 ปี เบื้องต้น พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง 4 ข้อหา ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

สบส.เตือนตรวจสอบก่อนทำศัลยกรรม
ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. ฝากเตือนให้ประชาชนศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ก่อนการตัดสินใจเสริมความงาม และเลือกรับบริการจากสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องเท่านั้น โดยให้สังเกตจากหลักฐานต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการฯ ใบอนุญาตสถานพยาบาลฯ ที่สำคัญแพทย์ที่ให้บริการต้องเป็นคนเดียวกับในรูปถ่าย ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่แสดงไว้ในคลินิก ถ้าสงสัยหมอเถื่อน และสถานพยาบาลเถื่อน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน สบส. 1426  หรือเฟซบุ๊ก ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส.กระทรวงสาธารณสุข

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark