ตำรวจลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง เด็กถูกแจ้งจับขโมยกินกล้วย

ข่าวภูมิภาค 10 ธันวาคม 2565 - สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - หลังจากที่เป็นข่าวฮือฮา กรณีเด็กชายอายุ 6-12 ขวบ ถูกแจ้งความคดีอาญาข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ เหตุเพราะดอดเข้าไปขโมยกินกล้วย 1 หวี ของเพื่อนบ้าน ปรากฏว่าเจ้าของบ้านก็โต้ว่า จริง ๆ แล้วเด็กกลุ่มนี้ซุกซนเกินเหตุ ไม่ใช่แค่กินกล้วย แต่เข้าไปทำลายทรัพย์สินในบ้าน ที่สำคัญเอกสารสำคัญเธอหายไป ก็เลยไปแจ้งความ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

หลังเกิดเหตุเด็ก ๆ 8 คน อายุ 6-12 ขวบ ถูกหญิงอายุ 33 ปี แจ้งความเอาผิดว่าเด็ก ๆ เข้าไปรื้อค้นเอกสาร ทำลายข้าวของในบ้าน และขโมยกินกล้วยในครัว พ่อแม่ก็เลยมาร้องสื่อว่าทำแบบนี้มันเกินไปไหม ทำไมไม่ตักเตือนสั่งสอนกันดี ๆ ถึงขั้นไปแจ้งความให้ตำรวจส่งหมายเรียกมาที่บ้านกันเลย โดยตั้งข้อหาว่าเด็ก ๆ ร่วมกันบุกรุกและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ หนำซ้ำยังเรียกค่าเสียหายคนละ 3,000 บาท หากใครไม่จ่ายก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อรองกันจนเหลือคนละ 2,000 บาท ผู้ปกครองเด็ก 4 คน ก็ตัดใจยอมจ่าย เพราะกลัวว่าลูกจะมีคดีอาญาติดตัวต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ผู้ปกครองอีก 4 คน ไม่ยอมจ่าย ยืนยันว่าลูกไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งยังจะแจ้งความกลับคู่กรณีฐานแจ้งความเท็จอีกด้วย

ขณะที่ ฝั่งหญิงคู่กรณีก็ยืนยันว่า ที่แจ้งความไม่ใช่เพราะเด็กแค่ขโมยกินกล้วย แต่เด็ก ๆ กลุ่มนี้เคยปาไข่ใส่บ้าน เทผงซักฟอก รื้อค้นในครัวจนเละเทะ สร้างความเดือดร้อน ล่าสุดที่ฉุนขาด คือ เอกสารสำคัญทั้งวุฒิปริญญาตรี และ พาสปอร์ต หายไป

ด้าน นักกฎหมาย บอกว่า เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่จะเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ แต่กรณีนี้หากต้องส่งฟ้องศาลจริง ๆ ส่วนใหญ่แล้วศาลจะเมตตาสั่งลงโทษผู้กระทำผิดไปเข้ารับการฝึกอบรมจากสถานพินิจ เพื่อให้โอกาสได้ปรับตัวเป็นคนดี แต่จะดีที่สุดหากทั้งสองฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน

ล่าสุด วานนี้ ผู้กำกับการ สภ.ประโคนชัย ก็ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านโคกสำโรง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน เพื่อหาทางออกไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายในชุมชน ที่ต้องออกหมายเรียกก็เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่าย มาเคลียร์กันที่โรงพัก เพราะเคยคุยกันเองแล้วที่บ้านก็ทะเลาะกัน