ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ตั้งกรรมการสอบสวน ทุจริตสอบเข้าตำรวจ 2 พื้นที่

เจาะประเด็นข่าว 7HD - มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตสอบเข้ารับราชการตำรวจ ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว เป็นพื้นที่ที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้พบการทุจริตในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่พบมีบุคคลร่วมขบวนการ 35 ราย มีผู้สมัครสอบร่วมทุจริต 118 ราย

จากกรณีที่ในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า การสอบเข้ารับราชการตำรวจในปี 2565 มีปัญหาเรื่องข้อสอบรั่วไหล โดยมีการแอบนำข้อสอบออกมาเผยแพร่ให้กับผู้เข้าสอบผ่านทางระบบซูม โดยเป็นการนำคำถามและคำตอบออกมาเฉลยให้ผู้เข้าสอบได้รับทราบ แต่มีพลเมืองดีสามารถแคปภาพข้อสอบต่าง ๆ เอาไว้ได้ จนทำให้มีผู้ที่ทราบเบาะแสเรื่องดังกล่าวเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ทำให้กองบัญชาการศึกษามีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง การสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 1,265 อัตรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ทีมข่าวจึงสอบถามไปยัง พลตำรวจตรี ญาณพงศ์ โสมาภา รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะโฆษกกองบัญชาการศึกษา เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรกเป็นกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่ามีการทุจริตสอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจเมื่อเดือนมีนาคม 2565 การสอบในครั้งนั้นพบว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริงในสนามสอบย่อย และพบผู้เข้าสอบซึ่งเข้าข่ายทุจริตจำนวน 118 คน และยังมีตำรวจระดับรองสารวัตรและตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต 35 ราย ซึ่งหลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ได้ส่งเรื่องดังกล่าวมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบและดำเนินการในขั้นต่อไป ส่วนผู้ที่เข้าสอบทั้ง 118 คน ขณะนี้ได้พ้นจากสถานภาพการเป็นนักเรียนโรงเรียนนายสิบแล้ว

ส่วนประเด็นที่ 2 เป็นการสงสัยว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้นในการสอบเข้ารับราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลร้องเรียนผ่านทางโลกโซเชียล เป็นลักษณะคลิปวิดีโอการเฉลยคำถามคำตอบในข้อสอบ จากการตรวจสอบพบว่า คำถามและเฉลยดังกล่าวตรงกับข้อสอบในวันเข้าสอบ ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และมีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า มีบุคคลเข้าสอบมีชื่อและนามสกุลตรงกัน เข้าสอบพร้อมกัน เรื่องนี้ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า บุคคลที่เข้าสอบมีชื่อและนามสกุลเดียวกันจริง แต่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของทั้งสองคนไม่เหมือนกัน และตรวจสอบข้อมูลในทะเบียนราษฎร์พบว่า เป็นคนละบุคคลกันจริง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark