ชูวิทย์ เปิดคำสั่งทีมสอบทุนจีนสีเทา

เจาะประเด็นข่าว 7HD - "ชูวิทย์" ออกมาแฉอีก คราวนี้โพสต์ข้อความและเปิดคำสั่งแต่งตั้งทีมสอบทุนจีนสีเทา พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน "คดีผับจินหลิง" แทนที่จะเป็นพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่างค้านสายตาประชาชน

หลังจากเมื่อวานนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความนี้ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ประเด็นตั้งข้อสงสัยเรื่องที่ตำรวจแจ้งข้อหา "ฟอกเงิน" กับนายตู้ห่าว และเครือข่ายล่าช้า ซึ่งพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ฺ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ออกมาชี้แจงและยืนยันแล้วว่า จะมีการแจ้งข้อหานี้แน่นอน แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการ

เมื่อคืนนี้นายชูวิทย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีก คราวนี้ได้นำคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่แต่งตั้งให้พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน "คดีผับจินหลิง" โดยมีพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเพียงผู้ควบคุม กำกับ ดูแล การสืบสวนสอบสวนเท่านั้น

โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า ผบ.ตร. ขี้กลัวหรือเปล่า ทั้งที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ที่ออกหน้ากวาดล้างทุนจีนสีเทา จับกุมทั้งคดีออกวีซานักเรียนให้ชาวจีน สวมบัตรประชาชน มูลนิธิปลอม ยึดทรัพย์ อายัดเงิน กลุ่มทุนจีนสีเทา แท้จริงเป็นเพียง โฆษก ออกหน้าเวที แต่ไม่มีอำนาจ

การเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนของพลตำรวจโท ธิติ ที่มีอำนาจในการอนุมัติแจ้งข้อกล่าวหา แต่กลับมีลูกน้องปล่อยตัวผู้ต้องหา "หลานนายตู้ห่าว" แถมรถหรูของกลางหายไปอีก 4 คัน หมายจับนาย "ตู้ห่าว" ก็ถูกดองไว้ร่วมเดือน กว่าจะออกได้ ทุกอย่างล่าช้า

พร้อมกับตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ตั้งพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ รับผิดชอบเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน คุมคดีสำคัญเช่นนี้ ที่ผ่านมาก็ออกหน้าจับกุม ยึดทรัพย์ มีพนักงานสอบสวนมากถึง 60-70 นาย แต่สำนวนกลับไปอยู่กับทีมผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

หากตั้งพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ผบ.ตร. จะต้องเป็นผู้เซ็นอนุมัติข้อหา เซ็นรับรองสำนวนตามกฎหมาย ด้วยอาการกลัวลนลานที่จะต้องรับผิดชอบในภาวะก่อนเกษียณ ช่างค้านสายตาประชาชน

ล่าสุดพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาชี้แจงว่า นายชูวิทย์ อาจจะมีการเข้าใจผิดในหลายเรื่องที่อาจจะทำให้ไม่มั่นใจในตำรวจขึ้นมา เริ่มต้นคดีผับจินหลิงเกิดจากพลตำรวจโทธิติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าจับกุม เพราะมีการสืบสวนทางลึกมา และได้ใช้กำลังที่ไม่เกี่ยวกับท้องที่ เพื่อไม่ให้มีการข่าวรั่ว โดยได้เข้าไปดำเนินการเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก ดังนั้นการแต่งตั้งพลตำรวจโทธิติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้ากำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวน ถือว่าเหมาะสมอยู่แล้ว

ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาแฉว่ามีนายพลตำรวจ ยศพลตำรวจตรี 3 นายเกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ในชาวจีนเข้ามาไทยได้โดยสะดวก พลตำรวจโท วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน กล่าวว่า ในวันอังคารที่ 13 ธันวาคมนี้ จะเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อหารือ วางแนวทางในการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจะเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวน พร้อมกับดูหลักฐานประกอบ และอาจต้องประสานขอข้อมูลการสอบสวน ชุดทำงานของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ที่ได้เรียกสอบข้าราชการตำรวจในสังกัด สตม. มาประกอบควบคู่ไปด้วย ก่อนรวบรวมข้อมูลให้สรุปเพื่อประกอบการพิจารณาให้ทาง ผบ.ตร.ทราบภายใน 15 วัน