ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ : รถยนต์ BEV กำลังมาแรง

ประเด็นเด็ด 7 สี - รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า ประเทศไทยเราพูดถึงกันมานาน กระทั่งปีนี้ภาพเริ่มชัดเจน และเพิ่งจะปิดฉากงานมหกรรมยานยนต์ งานใหญ่ เราพาคุณผู้ชม ไปสำรวจตลาดรถยนต์ เครื่องยนต์ไฟฟ้า ในประเด็นเด็ดเศรษฐกิจวันนี้

รถยนต์เครื่องยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV กำลังสร้างกระแส และกลายเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังทิศทางราคาพลังงานยังสูง ซึ่งเชื่อว่ารถยนต์ BEV ยังติดเทรนด์แบบยาว ๆ และมีการคาดการณ์ด้วยว่า เฉพาะปีนี้ยอดขายในประเทศไทยจะทำได้มากกว่า 12,000 คันและยังมีแนวโน้มว่าตลาดจะไปได้อีกไกล เพราะมีหลายปัจจัยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและไม่ใช่ภาษีที่นำเข้าจากต่างประเทศมาขายระหว่างปีนี้และปีหน้า โดยค่ายรถที่เข้าร่วมโครงการต้องผลิตรถออกมาชดเชยให้เท่ากับจำนวนรถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศและนำเข้ามาในประเทศไทยทั้งคัน ช่วงระหว่างปี 2565-2568 ตรงนี้เป็นตัวกระตุ้นให้บรรดาค่ายรถ โดยเฉพาะจากประเทศจีน รีบกระโดดเข้าร่วมโครงการและลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรา ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคึกคักขึ้นเป็นอย่างมาก และยังทำให้ราคา ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นด้วย และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี ทำให้รถยนต์ BEV มันใช้งานได้จริง รวมทั้งต้นทุนการใช้งานที่มีความคุ้มค่ากว่ารถยนต์สันดาปภายในถึงเกือบ 20% ซึ่ง Krungthai COMPASS เองก็ออกมาคาดการณ์ ว่ารถยนต์ BEV ในปีนี้ จะมียอดขายที่ 12,500 คัน ขยายตัวจากปีที่แล้ว 212.5% ส่วนยอดขายในปี 2566 จะขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ BEV จะอยู่ที่ 24,000 คัน หรือขยายตัว 92 %นั่นเอง

มาดูการจัดอันดับความพร้อมของตลาดสำหรับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า อันดับ 1 คือประเทศ นอร์เวย์ อันดับ 2 คือ จีน ส่วนเยอรมนี อยู่อันดับที่ 3 ไล่เรียงมา ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 9

มาดูช่องทางการเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ BEV ในตลาด ก็จะมีทั้งทางด้านระยะทางที่วิ่งได้ไกลขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต โดยข้อมูลจาก International Energy Agency ระบุว่ารถยนต์ BEV มีระยะทางขับขี่โดยเฉลี่ยต่อการชาร์จ 1 ครั้งเพิ่มขึ้น จากปี 2560 ที่วิ่งได้ 243 กิโลเมตร มาอยู่ที่ 349 กิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้นกว่า 44% โดย Krungthai COMPASS ประเมินว่า แนวโน้มด้านระยะทางของรถยนต์ BEV ที่สามารถวิ่งได้ไกลขึ้นกว่านี้อีก และนี่ก็เป็นปัจจัยทำให้ คุณผู้ชมตัดสินใจเลือกซื้อรถประเภทนี้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของสถานีชาร์จไฟฟ้ารวมทั้งเทคโนโลยีหัวจ่ายไฟฟ้า ที่ใช้ระยะเวลาการชาร์จต่อครั้งสั้นลง ปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านจาก "รถยนต์สันดาปภายใน" สู่ "รถยนต์ BEV" บนท้องถนนนั่นเอง ซึ่งหากเราไปดูยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง ประเภท BEV ล่าสุดพบว่า ยอดจดทะเบียนยังพุ่งต่อเนื่อง หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กว่า 288%

ผมว่ายังไงก็ยังมีปัญหาคาใจอีกหลายข้อ ที่อาจกลายเป็นแรงกดดันต่อการตัดสินใจเป็นเจ้าของรถ BEVไม่ว่าจะเป็นราคาขายต่อ ที่มีความไม่แน่นอน ราคาแบตเตอรี่ที่แพงอยู่ รวมไปถึงความทั่วถึงของสถานีชาร์จ พรุ่งนี้เราจะไปดูเรื่องนี้กัน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark