สรุปผลปฏิบัติการ SHUT DOWN ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เช้านี้ที่หมอชิต - ขยับขึ้นไปอีกวิธีในการตัดวงจรกลุ่มผู้กระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยตำรวจ บช.สอท. ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และจันทบุรี จับกุมอายัดตัวคนไทยที่อำนวยความสะดวกให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตัดสัญญาณเสาสื่อสารเถื่อน ที่ลักลอบลากสายอินเทอเน็ตข้ามประเทศ

เป็นภาพขณะที่ ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ นำกำลังเข้าตรวจค้น 6 จุด และจุดเชื่อมต่อชายแดน 1 จุด ในพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดจันทบุรี พร้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ บัญชีม้า จับกุมชาวไทยได้ 7 คน อายัดตัวได้ 1 คน ส่วนอีก 2 คน มีคนไทย และคนสัญชาติกัมพูชา ที่ทำหน้าที่ ยื่นคำขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หลบหนีไปได้

แต่จากปฏิบัติการนี้ก็ทำให้สามารถยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, สมุดบัญชีธนาคาร และบัญชีเงินฝากธนาคาร (บัญชีม้า) , เอกสารที่เกี่ยวข้องคำขอใช้บริการอินเทอเน็ต, ธนบัตรสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยเกือบ 4 ล้านบาท และเอกสารอื่น ๆ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตัวแทนจากหลายหน่วยงาน แถลงสรุปปฏิบัติการ "Shut down" ที่ว่านี้ มาจากพฤติการณ์ที่กลุ่มคนร้ายเปิดเว็บไซต์ชักชวนผู้เสียหายลงทุน โดยเสนอผลตอบแทนสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่เมื่อลงทุนไปแล้ว จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกัน หลังรวบรวมข้อมูลของผู้เสียหายที่ร้องเรียนผ่านทางออนไลน์ ก็สืบสวนจนพบว่ากลุ่มคนร้ายเกี่ยวข้องกับการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่มีค่าบริการสูงถึงกว่าเดือนละ 200,000 บาท และยังพบการเชื่อมต่อสายสัญญาณข้ามไปยังประเทศกัมพูชา จึงเปิดปฎิบัติการตัดสายสัญญาณที่เป็นการลักลอบใช้งาน

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตรวจยึดซิมโทรศัพท์เถื่อนไปแล้วกว่า 200,000 ชิ้น ทำให้ปริมาณการก่อคดีลดลงไปถึง 25% เชื่อว่าการเปิดปฏิบัติการนี้ จะลดปริมาณการก่อเหตุลงได้อีกมาก

ด้าน พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการ สอท. ระบุว่า หนึ่งในตัวการสำคัญคือ นายมโนรม สม ชาวกัมพูชา มีการเดินทางเข้า-ออก ไทยอยู่บ่อยครั้ง มีการประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ภายในประเทศกัมพูชา แต่กลุ่มลูกค้าส่วนมากเป็นกลุ่มที่กระทําการผิดกฎหมาย เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ , กลุ่มผู้ให้บริการเว็บพนัน นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงกับ "เสี่ยโป้" จากการใช้หมายเลขไอพีแอดเดรสหมายเลขหนึ่ง และการทํารายการโอนเงินเพื่อฟอกเงินที่ได้จากการกระทําผิด

ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยข้อมูลว่า ตลอดทั้งปี 2565 พบผู้เสียหายที่ถูกหลอกทางออนไลน์ไปกว่าหลักแสนคน รวมความเสียหายมากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจ