เชิญตัวชายอ้างต่อดวงชะตารับบริจาคให้ปากคำ

ข่าวอาชญากรรม 18 ธันวาคม 2565 - สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจไซเบอร์ เชิญตัวชายคนหนึ่ง อายุ 66 ปี ที่ประกาศบนโซเชียลทำพิธีต่อดวงชะตาตามความเชื่อ อ้างต้องทำพิธีแข่งกับเวลาไปให้ปากคำ หลังพบมีผู้หลงเชื่อโอนเงินไปให้กว่า 700,000 บาท ก่อนสุดท้ายจะดำเนินคดีไป 3 ข้อหา

พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ พร้อมชุดสืบสวน ไปเชิญตัวชายคนหนึ่งที่โพสต์ข้อความเชิญชวนประชาชนที่มีจิตศรัทธา ร่วมกันทำบุญบริจาคเงินเพื่อทำพิธีต่อดวงชะตา และคอมเมนต์ข้อความเชิงเร่งรัดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาค โดยอ้างว่าต้องทำพิธีแข่งกับเวลา จนพบว่ามีคนโอนเงินมาร่วมบริจาคจำนวนมาก ไปซักถามข้อเท็จจริงถึงการโพสต์ข้อความดังกล่าว ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน 1 บช.สอท.

หลังใช้เวลาซักถามข้อเท็จจริงอยู่ราว ๆ 2 ชั่วโมง พลตำรวจตรีวิวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าชายคนนี้เป็นอดีตอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง มีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ หรือ สายมู เกี่ยวกับการทำพิธีกรรมต่าง ๆ จึงโพสต์เรี่ยไรรับบริจาคเงิน เพื่อให้คนที่มีจิตศรัทธาเข้าร่วมทำพิธี โดยเจ้าตัวยอมรับว่ามีการเปิดรับเงินบริจาคจริง ซึ่งตั้งแต่ที่เริ่มโพสต์ไปจนถึงช่วงเที่ยงเมื่อวานนี้ มียอดเงินเข้ามาในบัญชีประมาณ 700,000 บาท ซึ่งอ้างว่าได้นำไปซื้อของทำพิธีบายศรี และโอนเงินไปที่สำนักงานมูลนิธิแห่งหนึ่งในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กว่า 300,000 บาท ส่วนที่เหลืออ้างว่าเตรียมนำไปไถ่ชีวิตโค-กระบือ และทำพิธีในส่วนอื่นต่อ

สำหรับบัญชีที่โพสต์ไว้ มี 2 บัญชี ตำรวจจะเชิญเจ้าของบัญชีอีกรายมาสอบสวนด้วย พร้อมกับจะตรวจสอบบัญชีปลายทางที่โอนเงินไป ส่วนผู้ที่โอนเงินเข้ามาก่อนหน้านี้ หากไม่สบายใจก็สามารถมาร้องทุกข์ขอเงินคืนจากผู้รับบริจาคได้

ทั้งนี้ ตำรวจได้ดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพเพียง 2 ข้อหา โดยให้การภาคเสธข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากไม่ได้ทำไปเพราะมีเจตนาทุจริต หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ส่วนที่ไม่ได้แจ้งข้อหาตามมาตรา 112 เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายความผิด พร้อมกันนี้ยังได้ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังคนที่เปิดรับบริจาค หากเป็นการเรี่ยไรโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้