ต้นทุนค่าไฟฟ้า แรงกดดันเศรษฐกิจไทยปีหน้า

ข่าวภาคค่ำ - เศรษฐกิจไทยปีหน้า ยังคงเผชิญหลายโจทย์รุมเร้า ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และต้นทุนค่าไฟฟ้า ทำให้หลายฝ่ายต้องปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลง

ต้นทุนค่าไฟฟ้า แรงกดดันเศรษฐกิจไทยปีหน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ จากแรงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และยูโรโซน และเศรษฐกิจจีน ที่มีแนวโน้มอาจเปิดประเทศในปีหน้า นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจาก ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งวิกฤตราคาพลังงาน ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่ปรับสูงขึ้น การปรับขึ้นค่าแรง รวมทั้งภาวะดอกเบี้ยที่จะส่งผลกระทบทั้งภาคธุรกิจและภาคบริโภค ทำให้ต้องปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจลง เหลือ 3.2% จากที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าอาจโต 3.2-4.2% ซึ่งการฟื้นตัวของรายได้ภาคธุรกิจในปี 2566 จะมีลักษณะเป็น K-Shaped

ด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยช่วงปีนี้อัตราเงินเฟ้อของโลกปรับตัวขึ้นสูงมาก จากปัจจัยราคาพลังงานที่เป็นแรงกระแทกสำคัญ และทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเร็วและแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ซึ่งมีผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาก เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ นำมาซึ่งการตึงตัวของภาวะการเงินโลก ส่วนเศรษฐกิจไทยจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในครึ่งปีหลังของปีหน้าทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 3.7% และเพิ่มเป็น 3.9% ในปี 2567

นายกฯ ยืนยัน ประชาชนจะเดือดร้อนกับค่าไฟฟ้าน้อยที่สุด
และกรณีประชาชนตื่นตระหนกกับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ต้องไปดูว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาจากอะไร แต่รัฐบาลจะพยายามทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด