เดินหน้าค้นหากำลังพล 30 นาย สูญหาย เหตุเรือหลวงสุโขทัยจมทะเล

เช้านี้ที่หมอชิต - กองทัพเรือ เร่งปฏิบัติการค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่ยังสูญหายจากเหตุคลื่นสูงซัดล่มจมทะเล โดยล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงคืน ที่ผ่านมา หนึ่งในผู้ประสบเหตุยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้

ความคืบหน้าปฎิบัติการช่วยเหลือกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย ถูกคลื่นสูงซัดล่มจมทะเล ห่างชายฝั่งอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 15-20 ไมล์ทะเล ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) เรือบรรทุกน้ำศรีไชยยา และเรือทัก ช่วยเหลือนำกำลังพล กลับเข้าท่าเทียบเรือน้ำลึกบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางสะพาน ต่อมาช่วงเที่ยง เรือน้ำมัน และเรือหลวงกระบุรี พบกำลังพลอีก 3 นาย จึงช่วยเหลือนำกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ทำให้มียอดรวมช่วยเหลือกำลังพลแล้ว 75 นาย จากทั้งหมด 106 นาย

กองทัพเรือส่งเครื่องบินรับกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" กลับมารักษาตัวที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ขณะที่ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เดินทางมารับผู้บาดเจ็บ กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย หลังได้สั่งการให้เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล เดินทางไปรับผู้บาดเจ็บ มายังสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ทั้งหมด 6 นาย ก่อนนำตัวส่งรักษาตัวต่อยังโรงพบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี

และช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ที่หน้ากองบัญชาการกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย จำนวน 54 นาย ที่รอดชีวิต ได้เดินทางด้วยรถบัส ของกองทัพเรือ จำนวน 2 คัน จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาถึง โดยขณะที่ทุกคนเดินทางลงจากรถบัส ก็มีเพื่อน ๆ และครอบครัว ต่างเข้ามาต้อนรับ ด้วยการกอดให้กำลังใจ ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในวันนี้ (20 ธ.ค.) จะมีการจัดอากาศยาน บินไปรับกลับมารักษาตัว ที่อำเภอสัตหีบ

โดยหนึ่งในผู้ประสบเหตุ เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นคือเกิดจากเรือเอียงประมาณ 60 องศา จนทำให้น้ำไหลเข้าเรือ และท้ายเรือก็เริ่มจม จนในที่สุดเรือก็จมลงไปแบบแนวตั้งต่อหน้าต่อตา

และนอกจากนั้น ยังยืนว่ามีผู้เสียชีวิตจริง ซึ่งเสียชีวิตขณะเกิดเหตุเลย โดยขณะเกิดเหตุถึงขั้นแขนขาด และเสียชีวิต เพื่อน ๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พยายามที่จะกอดศพไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องยอมปล่อยไป เพราะต่างคนต่างก็ต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง

และในวันนี้ (20 ธ.ค.) การค้นหาก็ยังคงดำเนินการต่อไปเป็นวันที่ 3 ทั้งเรือหลวงกระบุรี เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพล ที่ยังคงออกค้นหากำลังพลที่เหลืออีกต่อไป ถึงแม้ว่าคลื่นและลมยังแรงอยู่ก็ตาม พร้อมทั้งส่งเรือและอากาศยาน รวมถึงชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยเรือและอากาศยาน ยังคงทำการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลืออีก โดยได้กำหนดพื้นที่ค้นหา ขนาดพื้นที่ 20X15 ตารางไมล์ ซึ่งอยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมลง ประมาณ 18 ไมล์ทะเล โดยคำนวนจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลม รวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบและช่วยเหลือกำลังพลล่าสุด นำมาพิจารณาพื้นที่ที่เป็นไปได้ว่ากำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว

ส่วนการที่จะกู้เรือหลวงสุโขทัยซึ่งจมอยู่ ก็จะต้องจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปดูว่าเรือจมอยู่ในสภาพแบบไหนก่อน การกู้เรืออาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ การใช้เทคนิค อุปกรณ์ และเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาทำการกู้ ซึ่งก็ต้องใช้เวลา พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ บอกว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างค้นหาอย่างต่อเนื่อง และยอมรับว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากคลื่นสูง ลมแรง ส่วนการจะกู้เรือ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญวางแผนอีกครั้ง และที่สำคัญก็เป็นห่วงเรื่องน้ำมัน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงต้องหาวิธีการดำเนินการโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ ห่างจากชายฝั่งอำเภอบางสะพาน 20 ไมล์ โดยใช้สถานที่สโมสรสัญบัตรกองเรือยุทธการ 

ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย หมายเลขโทรศัพท์ 038182435 และ 0840023554