สรุปภารกิจช่วยกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน สื่อทุกสำนักไปรอทำข่าว ติดตามการค้นหาผู้สูญหาย "เรือหลวงสุโขทัย"

เมื่อวานนี้ เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือ ได้ลำเลียงกำลังพลที่รอดชีวิต 1 นาย คือ พลทหาร ชนัญญู แก่นศรียา ซึ่งได้รับการช่วยเหลือและพักฟื้นบนเรือหลวงอ่างทอง 1 คืน มาถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว โดยทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอด รถฉุกเฉินของมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน นำตัวส่งโรงพยาบาลบางสะพานทันที

นอกจากนี้ เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ยังได้ลำเลียงกำลังพลอีก1 นาย ที่พบเสียชีวิตเป็นรายที่ 6 คน กลับขึ้นฝั่งด้วยเช่นกัน โดยนำร่างไปเก็บไว้ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน

ขณะที่ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ได้เดินทางมาเพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลกำลังพลทั้ง 6 นาย ที่เสียชีวิต โดยจากลายนิ้วมือ, ฟัน, และดีเอ็นเอ และเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ได้พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลทั้ง 6 คน และกองทัพเรือ ได้ยืนยันรายชื่อดังนี้ คือ เรือโท สามารถ แก้วผลึก, พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ, พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์, พันจ่าเอก อำนาจ พิมที, จ่าเอก จักรพงค์ พูนผล, พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ

ตำรวจ สภ.บางสะพาน ได้ตั้งโต๊ะสอบปากคำญาติ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้เจ้าหน้าที่อำเภอบางสะพาน ออกใบมรณบัตรให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด ต้องรอคำสั่งจากกองทัพเรือว่าจะดำเนินการอย่างไร จะจัดพิธีให้ก่อน แล้วส่งมอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลหรือไม่ หรือส่งมอบเลย

และในเวลาประมาณ 14.00 น. พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า กำลังพลที่สูญหายอาจจะลอยเข้าใกล้ฝั่ง จึงได้ประสานชุด ศรชล. เพื่อขอกำลังเรือตรวจการณ์ออกค้นหาตามแนวชายฝั่ง และให้ขยายการค้นหาระยะทางไกลขึ้น กินพื้นที่ถึงจังหวัดชุมพร

นอกจากนี้ กองทัพเรือยังได้ส่งเรือหลวงนราธิวาส พร้อมกำลังพลเข้ามาเสริมในการค้นหา ร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงนเรศวร และเรือหลวงกระบุรี พร้อมทั้งกล่าวว่าจะเน้นค้นหาในช่วงเวลากลางวันเป็นหลัก ซึ่งคลื่นลมในทะเลน้อยลง ทำให้มีความหวังว่าจะพบผู้สูญหายทั้งหมด

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ยังได้ชี้แจงในประเด็นที่มีข่าวว่าก่อนที่เรือหลวงสุโขทัยจะจม มีใบส่งซ่อมตัวเครื่อง แต่กลับมีคำสั่งให้นำเรือออกทะเลแทน ว่าอาจเป็นการส่งซ่อมอุปกรณ์ที่ไม่สำคัญ ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องยนต์แต่อย่างใด จึงอนุญาตให้ออกเรือได้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ที่ศูนย์ประสานงานความช่วยเหลือ "เรือหลวงสุโขทัย" มีญาติของกำลังพลที่สูญหายมารอติดตามฟังข่าวการค้นหาอย่างใกล้ชิด บางครอบครัวได้รับข่าวดี ต่างดีใจว่าลูกหลานตัวเองอย่างปลอดภัย ส่วนบางคนก็ยังรออย่างมีความหวัง