จับแล้ว 9 คน นอมินีนายตู้ห่าว ร่วมกันฟอกเงิน

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล ติดตามจับกุมนอมินีนายตู้ห่าว เพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 9 คน จาก 15 หมายจับในคดีฟอกเงิน และสมคบกับฟอกเงิน

หลังจากที่เมื่อวานนี้ ตำรวจนครบาลไปขอศาลออกหมายจับนอมินีที่ถือครองทรัพย์สินของนายตู้ห่าว นักทุนจีนธุรกิจสีเทา 15 หมายจับ และไปจับกุม พันตำรวจเอกหญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ผู้กำกับการกองการต่างประเทศ​ ภรรยาของนายตู้ห่าว และนางสาวพัชรินทร์ คนสนิทของนายตู้ห่าว กับพวกรวม 8 คน ไปดำเนินคดีฐานฟอกเงิน และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน

บรรยากาศที่ สน.ยานนาวา วันนี้ ก็มีผู้สื่อข่าวไปเฝ้าติดตามข่าวเป็นจำนวนมาก แต่ทางตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพบริเวณด้านหน้าห้องขัง โดยได้นำแผงกั้นเหล็กไปปิดกั้นทางเข้าออกไว้ ก่อนที่ช่วงเที่ยงวันนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวพันตำรวจเอกหญิงวันทนารีย์ ภรรยาของนายตู้ห่าว ออกจากห้องขังไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา ไปให้คณะทำงานอัยการสูงสุดสอบสวน โดยพันตำรวจเอกหญิงวันทนารีย์ ปฎิเสธที่จะตอบคำถามของสื่อมวลชน

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล ก็นำกำลังเข้าจับกุมนาย พีรพัฒน์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาคนที่ 9 ในคดีเดียวกัน ที่บ้านพักย่านสายไหม กรุงเทพฯ

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปข้อมูลว่า ตำรวจนครบาลได้ขอศาลออกหมายจับพันตำรวจเอกหญิง วันทนารีย์ ภรรยานายตู้ห่าว และหุ้นส่วนโรงแรมดีวาลักค์ รวม 15 หมายจับ จับกุมแล้ว 9 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 6 คน หากสอบสวนแล้วพบความเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นอีกก็จะออกหมายจับเพิ่ม

กรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาโพสต์ตั้งข้อสงสัยในการทำงานของตำรวจนั้น พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ไม่ขอตอบคำถามในเรื่องนี้ ขอให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะที่ผ่านมาตำรวจพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม ไม่มีข้อโต้แย้ง ยืนยันว่าจะสามารถสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้กับอัยการสูงสุด ได้ทันตามกรอบระยะเวลา

และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายชูวิทย์ ก็ออกมาแถลงย้ำว่า ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจนครบาลโดยด่วน พร้อมกับระบุประเด็นที่น่าสงสัยว่า คดีนี้ตำรวจแบ่งการเข้าตรวจค้นออกเป็น 2 วัน คือวันที่ 26 ตุลาคม เข้าตรวจผับจินหลิง และอาคารลีลา พบยาเสพติด 4-5 กิโลกรัม แต่วันนั้นกลับไม่มีการเข้าค้นร้าน WipWup Car Wash ทั้งที่อยู่ภายในรั้วเดียวกัน แต่กลับมาค้นอีกครั้งวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น และพบยาเสพติดเพียง 950 กรัม จึงสงสัยว่า หากใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เหตุใดจึงไม่ค้นไปพร้อมกับผับจินหลิง และระหว่าง 5 วันที่เว้นไปนั้น เป็นการประวิงเวลาให้มีการเคลื่อนย้ายถ่ายเทพยานหลักฐานหรือไม่ เพราะเชื่อว่า WipWup Car Wash เป็นโกดังเก็บยาเสพติด ส่วนผับจินหลิง เป็นเพียงร้านค้าขายปลีกเท่านั้น

การที่ตำรวจแยกการเข้าตรวจค้น 2 วันนี้ ออกเป็นคนละสำนวน เป็นการเจตนาแยกสำนวนเพื่อลดจำนวนยาเสพติดที่พบหรือไม่ แม้ทางตำรวจจะบอกว่ามีการปิดกั้นพื้นที่ ไม่สามารถโยกย้ายทรัพย์สินได้ แต่นายชูวิทย์บอกว่า ความจริงคือมีเพียงตำรวจยศ สิบตำรวจโท 2 นายเท่านั้นที่เฝ้าสถานที่ และระหว่างนั้นก็ยังมีการนำรถที่ควรจะเป็นของกลางในคดีออกนอกพื้นที่ได้อยู่ดี

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ยังบอกอีกว่า จนถึงขณะนี้นายตู้ห่าว ก็ยังไม่ถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน โดยเพียงแค่คดียาเสพติด ซึ่งพยานหลักฐานในคดียาเสพติดก็ไม่แน่นหนา พยานบุคคลซึ่งเป็นคนจีน 2 คน แม้จะให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพนักงานสอบสวน แต่ในชั้นศาลเชื่อว่าน่าจะกลับคำให้การ ไม่มีทางซัดทอดชาวจีนด้วยกันแน่นอน ส่วนพยานที่เหลือ บางส่วนที่ถูกปล่อยตัวก็ได้บินออกนอกประเทศไปอยู่กัมพูชาหมดแล้ว เหลือเพียงพยานหลักฐานว่านายตู้ห่าว ออกเช็คจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และเป็นผู้เช่าสถานที่ ซึ่งก็ไม่ได้ชี้ว่านายตู้ห่าวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งถ้านายตู้ห่าวหลุดคดียาเสพติด ก็เท่ากับหลุดคดีทั้งหมด