เปิดวงจรปิด รถกระบะชนรถ 3 คันรวด ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย

เช้านี้ที่หมอชิต - เปิดภาพหลักฐานวงจรปิด ชายอายุ 52 ปี ขับรถกระบะเฉี่ยวชนรถจอดข้างทาง 3 คันรวด สุดท้ายบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายรวมเกือบ 200,000 บาท หลังจากเกิดเหตุนานเกือบ 3 สัปดาห์ ยังไม่สามารถตกลงกันได้ แถมยังแจ้งตำรวจว่า ถูกผู้เสียหายโทรศัพท์มาคุกคาม

เป็นหลักฐานที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด ซึ่งผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถทั้ง 3 คัน ได้นำมาส่งมอบให้ตำรวจ สภ.คลองท่อม ขณะเข้าแจ้งความเมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุในช่วงเวลา 23.00 น.เศษ โดย นายสมพร มุณีรัตน์ อายุ 52 ปี มีภูมิลำเนาจังหวัดยะลา ได้ขับรถกระบะคันเกิดเหตุชนรถกระบะที่จอดอยู่ริมถนน และไถลมาชนรถเก๋งและรถกระบะอีก 2 คัน ที่จอดอยู่ด้านหน้าร้านทองแห่งหนึ่งในสภาพพังเสียหาย เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม พื้นที่ตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

ขณะที่ นายพงศภัค สิงห์สโรทัย อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะและรถเก๋งที่ถูกชนดังกล่าว บอกว่า รถกระบะที่จอดอยู่เป็นของตัวเอง ส่วนรถเก๋งเป็นของภรรยา โดยจอดอยู่ใกล้กันบริเวณหน้าบ้านมานานแล้ว และหลังเกิดเหตุได้เรียกช่างจากอู่ซ่อมรถมาประเมินราคาค่าเสียหายและค่าซ่อมรถทั้ง 2 คัน อยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท ส่วนรถกระบะอีกคันที่ถูกชนมีค่าซ่อมอยู่ที่ 50,000 บาท ซึ่งเขาเองและผู้เสียหายอีกรายได้มาพูดคุยกับตำรวจที่ สภ.คลองท่อม ในคืนเกิดเหตุ

และได้ข้องใจว่า เหตุใดตำรวจถึงไม่ยอมตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับรถกระบะคู่กรณี แถมยังอนุญาตให้กลับบ้านไปก่อน ทำให้ต้องนัดเจรจาค่าเสียหายกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งหลังจากพูดคุยตกลงกันแล้ว นายสมพร ได้รับปากจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่เมื่อเวลาผ่านมาไม่นาน พบว่า นายสมพร ได้บ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาตามนัดของตำรวจเพื่อเจรจาค่าเสียหายตามที่ตกลงกันไว้ แถมยังบอกด้วยว่า ให้เขาและผู้เสียหายอีกคนไปคุยกับทนายความแทน และเมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามก็บอกว่า โทรมาคุกคาม และบอกให้ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอาเอง

ผู้เสียหายรายนี้ บอกด้วยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนกับทีมข่าวช่อง 7HD ในพื้นที่ ภายหลังตำรวจดำเนินคดีกับ นายสมพร ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคู่กรณีเพียงข้อหาเดียวเท่านั้น คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย