ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

กองทัพไทย ติดตามกำลังพลสูญหายต่อเนื่อง

เช้านี้ที่หมอชิต - กองทัพเรือเดินหน้าหาข้อเท็จจริงเรือหลวงสุโขทัยอับปาง และจะรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นให้ทราบในเบื้องต้น พร้อมเตรียมแก้ปัญหาคราบน้ำมันที่มีการรั่วไหลไม่เฉพาะแค่เรือหลวงสุโขทัย แต่มีเรือสินค้าที่อับปางในวันเดียวกันอีก ซึ่งได้กั้นพื้นที่ประกาศเป็นภัยพิบัติแล้ว

ที่กองทัพบก เมื่อเช้าวานนี้ (27 ธ.ค.) มีการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพที่มีผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยก่อนเริ่มประชุม พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่เป็นประธานการประชุม ได้เชิญผู้เข้าร่วมประชุมไว้อาลัยและคารวะให้กับกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิต

และหลังจากการประชุมผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง พลเอกเฉลิมพล ได้นำผู้บัญชาการเหล่าทัพแถลงผลการประชุม และได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยได้ชื่นชมการปฏิบัติงานของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่ใช้ขีดความสามารถอย่างที่สุด พยายามดูแลรักษายุทโธปกรณ์หลักที่สำคัญอย่างเต็มกำลัง จนถึงเวลาสภาพลมฟ้าอากาศมีความรุนแรงต่อเนื่องจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกับเรือ ยอมรับว่าเสียใจอย่างที่สุดกับกองทัพเรือและครอบครัวของกำลังพลผู้สูญเสีย แต่ทำให้เห็นถึงน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกำลังพล และจะช่วยการค้นหากันต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

หลังจากนั้นเมื่อมีการสอบถามถึงการสอบหาข้อเท็จจริงหลังมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหาสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เริ่มสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยแบ่งเป็นตรวจสอบหาเหตุการณ์อับปางและจมลงในทะเล เนื่องจากน้ำเข้าเรือจนกำลังพลไม่สามารถรักษาเรือไว้ได้ และตรวจสอบขั้นตอนการปฏิบัติภายหลังเรือจมไปแล้วว่าขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่เรือจมทำขั้นตอนถูกต้องหรือไม่

ส่วนความคืบหน้าการกู้เรือหลวงสุโขทัย รวมถึงการกำจัดคราบน้ำมันหลังคาดว่ามีน้ำมันไหลออกมา ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุ นอกจากเรือหลวงสุโขทัยที่อับปาง ในวันที่ 18 ธันวาคม ยังมีเรือสินค้าอับปางเช่นกันใน 3 พื้นที่ ได้ประกาศพื้นที่เป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว และวางแผนนำน้ำมันขึ้นมาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

และเมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.) กองทัพเรือสรุปยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 21 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 20 นาย และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ และอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์เอกลักษณ์ เพื่อยืนยันตัวบุคคล 1 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 8 นาย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark