กู้ภัยสหรัฐฯ เดินหน้าขุดหิมะหาร่างผู้เสียชีวิต หลังพายุโหมกระหน่ำ

เช้านี้ที่หมอชิต - พายุหิมะที่โหมกระหน่ำสหรัฐฯ ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเดินหน้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตใต้หิมะทับถมหนา ทำให้ฤดูหนาวในสหรัฐฯ ปีนี้มีอากาศหนาวจัดที่รุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์

เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ที่อาจถูกฝังอยู่ใต้ชั้นหิมะที่ตกทับถมหนากว่า 1 เมตร หลังพายุหิมะพัดถล่มที่เมืองบัฟฟาโล ในรัฐนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่วันก่อน รวมทั้งยังพบว่ามีรถของประชาชนจำนวนหลายร้อยคันถูกหิมะปกคลุม ซึ่งบางคันยังพบประชาชนติดอยู่ในรถนานกว่า 2 วันด้วย โดยเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า พายุหิมะจะยังคงอยู่ และไม่มีแนวโน้มว่าจะสลายตัวในเร็ววันนี้ พร้อมทั้งบอกอีกว่าภัยพิบัติในครั้งนี้ถือเป็นภัยหนาวที่อาจรุนแรงที่สุดในช่วงชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศยินดีช่วยเหลือทุกรัฐ ที่ต้องการความช่วยเหลือจากส่วนกลางในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม พายุหิมะส่งผลกระทบในวงกว้าง ที่นอกจากจะทำให้หลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้แล้ว อิทธิพลจากกำลังลมแรงยังทำให้ต้นไม้หักโค่น โดยในเมืองบัฟฟาโล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน และยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ เนื่องจากพายุหิมะครั้งนี้มีจำนวนอย่างน้อย 60 คน พร้อมกับมีรายงานหญิงคนหนึ่งถูกต้นไม้ล้มทับจนเสียชีวิตในรัฐเวอร์มอนต์ นอกจากนี้ พื้นถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ยังทำให้เกิดเหตุประชาชนในรัฐมิสซูรีลื่นไถล และพลัดตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็งจนเสียชีวิตด้วย โดยล่าสุด อุณหภูมิในเมืองบัฟฟาโลเริ่มเพิ่มขึ้น โดยสูงสุดอยู่ที่ติดลบ 2 องศาเซลเซียส และต่ำสุดที่ติดลบ 6 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ จากรายงานล่าสุดของสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ระบุว่าจากเหตุที่ทำให้ต้องยกเลิก และเลื่อนเที่ยวบินกว่าหลายพันเที่ยวบินออกไปนั้น ขณะนี้สถานการณ์อยู่ในขั้นที่สามารถควบคุมได้แล้ว โดยจะเปิดให้บริการเที่ยวบินเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด เพื่อลดการตกค้างของผู้โดยสารจำนวนมาก