ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

จับอดีตนักกฎหมาย อดีตนายทหาร และอดีตผู้ใหญ่บ้าน ร่วมแก๊งลักทรัพย์ จ.นนทบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - บุญ-บาป ถือเป็นคนละส่วน โจรตระเวนลักทรัพย์ 3 คน ชักชวนกันไปทำบุญที่วัดดัง สุดท้ายถูกตำรวจรวบตัว ยึดของกลางได้หลายรายการ โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะลงมือก่อเหตุ

กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านเขตตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี บันทึกภาพรถยนต์คันหนึ่งขับมา แล้วกลับรถไปจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง สักพักมีชายสวมเสื้อสีดำ สวมหมวกมีปีกลายพราง ถือวัตถุคล้ายคีมตัดเหล็กไปตัดแม่กุญแจที่ล็อกประตูรั้วบ้านไว้  จากนั้นก็มีชายอีกคนเดินถือกระเป๋าใบหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นอุปกรณ์งัดแงะมาส่งให้ เหตุเกิดช่วง 13.18 น. วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา

ต่อมาอีกประมาณ 30 นาที ชายเจ้าของบ้านหลังนี้ ขับรถกระบะสีดำมาจอด จากนั้นก็ถอยรถเข้าบ้าน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ชายสวมหมวกมีปีกลายพราง วิ่งหอบกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจากบ้าน ชายเจ้าของบ้านรีบวิ่งตามชายแปลกหน้าไปทันที

ภาพอีกมุมจากกล้องติดรถกระบะของชายเจ้าของบ้าน จะเห็นว่าชายแปลกหน้า รีบหนีขึ้นรถยนต์ไปพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่สีเขียว ส่วนชายเจ้าของบ้าน (เสื้อสีน้ำเงิน) พยายามดึงเปิดประตูคนขับรถ ก่อนที่รถยนต์จะเร่งความเร็วหลบหนีไป ชายเจ้าของบ้าน รีบตรวจสอบในบ้าน พบทรัพย์สินสูญหายหลายรายการ จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางใหญ่

ตำรวจเร่งแกะรอยคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิด และรถยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะ ทราบว่าชายทั้งคู่ คือ นายอัคคะเมศฐ์ และ นายนพพร จึงขอศาลออกหมายจับ

กระทั่งวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่วงเวลา 15.30 น. ตำรวจ สภ.บางใหญ่ พร้อมตำรวจภูธจังหวัดนนทบุรี ร่วมกับตำรวจทางหลวง สืบทราบว่ากลุ่มคนร้าย เดินทางไปไหว้พระที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังไปซุ่มดักแล้วจับกุมตัว บริเวณลานจอดรถของวัด ซึ่งนอกจาก นายอัคคะเมศฐ์ และ นายนพพร แล้ว ยังจับกุม นายสวิง ผู้ร่วมลักทรัพย์ได้อีก 1 คน

ยึดของกลางเป็นรถยนต์ 2 คัน ชุดเสื้อผ้าที่สวมก่อเหตุ และรองเท้าคอมแบท 1 คู่ โทรศัพท์มือถืออีก 6 เครื่อง พร้อมธนบัตรสะสม พระเครื่อง นาฬิกา และทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายสิบรายการ

สำหรับพฤติกรรมของแก๊งลักทรัพย์นี้ ก่อคดีมาแล้วโชกโชนทั้งภาคกลางและภาคอีสาน โดยจะตระเวนขับรถไปตามหมู่บ้าน เลือกบ้านที่ล็อกแม่กุญแจจากภายนอก จากนั้นก็ใช้คีมตัดเหล็ก และอุปกรณ์งัดแงะ เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน ส่วนรถยนต์ที่ใช้ขับ จะมีการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนเพื่อหลบการติดตาม รวมถึงมีการใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดด้วย 

ผู้ต้องหาลักทรัพย์แก๊งนี้ รู้จักและสนิทสนมกันในเรือนจำ จึงชักชวนกันมาตระเวนลักทรัพย์ จากประวัติ นายอัคคะเมศฐ์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ ถูกตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก จับกุมฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2559 ด้าน นายนพพร เป็นอดีตทหาร ชีวิตผกผันเข้าเรือนจำ เพราะถูก ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก จับข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ ในวันเดียวกับนายอัคคะเมศฐ์ ส่วน นายสวิง เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน และเคยต้องโทษคดีปล้นทรัพย์ ในท้องที่ สภ.บึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อปลายเดือนธันวาคม ปี 2558  

ผู้ต้องหาทั้งหมด สารภาพร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน และรับของโจร โดย นายอัคคะเมศฐ์ (หัวโจก) มีความผิดฐานทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับบุคคลหรือทรัพย์สิน หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุมด้วย

โดยทรัพย์สินทั้งหมดจะนำไปขายแล้วแบ่งกัน เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว และเที่ยวเตร่ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark