คุมสามีโหด ฆ่าภรรยายัดถังทิ้งเหว ทำแผนฯ จ.พังงา

ข่าวอาชญากรรม 30 ธันวาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - ตำรวจคุมตัวสามีฆ่ายัดถังภรรยาทิ้งเหว บนอุทยานแห่งชาติเขาสก ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านพักในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือจริง เพราะหึงหวง และถูกด่าบุพการี จึงบันดาลโทสะคว้าด้ามไม้กวาดฟาดที่ศีรษะจนแน่นิ่ง ก่อนจะให้เพื่อน 2 คน ช่วยขับรถข้ามจังหวัด นำร่างที่ไร้วิญญาณของภรรยาใส่ถัง พาไปทิ้งอำพรางคดี

นายสุคนธ์ หรือเคี่ยม อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาฆ่ายัดถังทิ้งศพที่เหวลึก บนอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดพังงา ถูกเค้นสอบปากคำที่ สภ.กะปง จังหวัดพังงา โดยสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า นางสาวสุพัตรา อายุ 30 ปี ภรรยาของตนเอง เพราะหึงหวง หลังจับได้ว่าภรรยาแอบคุยกับผู้ชายอื่น จนเกิดการทะเลาะกัน และมีโอกาสปันใจ จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้ภรรยาหนีกลับไปอยู่บ้านแม่นานกว่า 2 เดือน

กระทั่งวันเกิดเหตุ 7 พฤศจิกายน ตนเองขับรถไปรับนางสุพัตราที่บ้านแม่ เมื่อกลับมาถึงบ้านพยายามง้อขอคืนดี แต่กลับถูกด่าถึงบุพการีด้วยคำหยาบ จึงโมโหบันดาลโทสะ คว้าด้ามไม้กวาดทุบตีศีรษะไม่ยั้ง จนสลบแน่นิ่ง ก่อนจะพบว่าภรรยาไม่มีลมหายใจ ด้วยความตกใจจึงโทรศัพท์ให้เพื่อน 2 คน คือ นายธีรเจต และนายปรีชา มาหา จากนั้นช่วยกันนำร่างไร้วิญญาณของนางสาวสุพัตรา ยัดใส่ถัง ยกขึ้นรถขับตระเวนไปเรื่อย ๆ ข้ามจังหวัดไปยังอุทยานแห่งชาติเขาสก ก่อนจะช่วยกันยกถังลงจากรถ ปล่อยให้กลิ้งลงเหวลึก เพื่อปกปิดความผิด ก่อนจะกลับบ้านใช้ชีวิตตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเวลาผ่านไปนานร่วมเดือน คิดว่าน่าจะไม่มีคนไปพบศพ แต่กลับปรากฏเป็นข่าวดัง จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว

หลังจากที่สอบปากคำแล้วเสร็จ ตำรวจคุมตัวนายเคี่ยมไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ เป็นบ้านไม่มีเลขที่ ในสวนปาล์ม พื้นที่ตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่อาศัยอยู่กับผู้เสียชีวิต โดยระหว่างการทำแผน มีญาติ ๆ และชาวบ้านมายืนรอเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ผู้ต้องหามีท่าทางไม่สะทกสะท้าน ไม่สำนึกผิดกับการกระทำ รวมถึงไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ แม้ว่าผู้สื่อข่าวจะพยายามตะโกนถามก็ตาม แต่ตะโกนบอกญาติ ๆ ฝากดูแลแม่แทนด้วย

นอกจากคำให้การของผู้ต้องหาแล้ว ตำรวจยังพบภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางสายพังงา-สุราษฎร์ธานี เห็นรถ 2 คัน เป็นรถเก๋งสีดำ และรถกระบะสีขาวบรรทุกถังสีฟ้า ขับตามกันบนถนนสายพังงา-สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าขึ้นอุทยานฯ ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน วันที่ 8 พฤศจิกายน ทำให้เป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้มัดตัวผู้ต้องหา

ต่อมาชุดสืบสวนภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดพังงา สามารถติดตามรถเก๋งและรถกระบะที่ใช้ในการบรรทุกศพ รวมถึงจับกุมนายธีรเจต และนายปรีชา เพื่อนของนายเคี่ยม ที่ร่วมในการขนศพไปทิ้งอำพรางเอาไว้ได้ ก่อนถูกนำตัวมาสอบสวน

เบื้องต้น นายเคี่ยม ถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาร่วมซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย เช่นเดียวกับนายธีรเจต และนายปรีชา ก็ถูกแจ้งข้อหาซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตายเช่นกัน