ลำดับเหตุการณ์คนขับรถเบนท์ลีย์ ไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์

ข่าวสังคม 11 มกราคม 2566 - ห้องข่าวภาคเที่ยง - จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ คดีอุบัติเหตุ รถเบนท์ลีย์ ชนกับรถ 3 คัน บนทางด่วนจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้มีความพยายามที่จะถ่วงเวลา เพื่อรอให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ลดลงหรือไม่

จากหลักฐานต่าง ๆ ที่ปรากฎออกมา หากดูเวลาที่บันทึกไว้จากกล้องหน้ารถ และจากภาพมุมสูงของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระบุเวลาขณะเกิดเหตุคือช่วงประมาณ 00.35 น.

จากนั้นตัวคนขับก็พยายามออกจากที่เกิดเหตุ เรียกรถแท็กซี่ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันไปล้อมรถ เพื่อให้พาตัวผู้ขับขี่ไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจก่อน

ต่อมาเป็นคลิปภาพบนสถานีตำรวจ จากภาพจะเห็นว่าคนขับมีอาการปกติ นั่งเคี้ยวหมากฝรั่งคุยโทรศัพท์ บอกว่า กำลังติดต่อหาทนายความ ซึ่งคลิปวิดีโอนี้เมื่อตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลการถ่ายภาพ พบว่าบันทึกไว้เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.

และภาพสุดท้าย เป็นภาพขณะที่เจ้าหน้าที่พาตัวคนขับขี่ไปส่งที่โรงพยาบาล เพื่อทำการเจาะเลือดไปตรวจพิสูจน์วัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เมื่อตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลการถ่ายภาพ พบว่า บันทึกไว้เมื่อเวลาประมาณ 04.35 น.

หากสรุปตามลำดับเหตุการณ์นี้ คิดแบบง่าย ๆ เท่ากับว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นตอนประมาณ 00.30 น. แต่กว่าจะส่งคนขับไปเจาะเลือด คือ ตอนประมาณ 04.30 น. ซึ่งห่างกันกว่า 4 ชั่วโมง จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดน่าจะลดลงไปมากแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้รับคำยืนยันจาก นายแพทย์ ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ที่อธิบายว่า การขับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดออกจากร่างกาย ตัวแปรสำคัญ คือ เวลา และ ตับ โดยทุก ๆ 1 ชั่วโมง ตับ จะขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายประมาณ 15-20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

หากต้องการรู้ว่าขณะเกิดเหตุ คนขับมีปริมาณแอลกอฮอล์เท่าไร ก็สามารถคำนวนผลแบบย้อนกลับได้ เริ่มจากดูว่าผู้ขับรถคันนี้ ถูกเจาะเลือดไปเวลากี่โมง แล้วผลออกมาได้ประมาณเท่าไร จากนั้นก็นับเวลาย้อนกลับไปถึงช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ ก็พอจะอนุมานปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้คร่าว ๆ และตำรวจอาจสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญไว้เป็นพยานในการดำเนินคดีในชั้นศาลได้

ส่วนความคืบหน้าในคดีนี้ จากการสอบถามกับ พลตำรวจตรี สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ให้ข้อมูลว่า เลือดที่ต้องการส่งตรวจ เมื่อส่งมาให้ สถาบันนิติเวชวิทยาฯ ดำเนินการ ทางสถาบันฯ จะไม่ทราบว่าเป็นคดีของใคร หรือมีความสำคัญอย่างไร อย่างคดีนี้ทราบว่าส่งมาช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ซึ่งตามขั้นตอนแล้วจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน ในการตรวจพิสูจน์ เท่าที่ทราบผลคดีนี้น่าจะออกแล้ว แต่เปิดเผยรายละเอียดทางคดีไม่ได้

ขณะที่ทีมข่าว 7HD ก็ได้รับข้อมูลที่ยังไม่มีการยืนยันมาว่า ผลการตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด มีอยู่แค่ประมาณ 20 กว่ามิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้น นั่นจึงทำให้สื่อมวลชนจากหลายสำนัก ไปรวมตัวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรอสอบถามข้อเท็จจริงคดีนี้กับตำรวจ