ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ชัยวัฒน์ โต้คำพยาน เงินในห้องอธิบดีคือสินบน ไม่ใช่ค่าเช่าพระ-ทำบุญ

เช้านี้ที่หมอชิต - พยานซองเงินสด "ส่วยอุทยาน" รายแรกส่อโป๊ะแตก หลังแจง ปปป. ว่า เงิน 100,000 บาท เป็นเงินค่าเช่าพระและเงินค่าทำบุญ แต่โดน "ชัยวัฒน์" ส่งหลักฐานตลบหลัง บ่งชี้ เงินทำบุญเช่าพระใช้การโอนผ่านธนาคาร พร้อมเขียนจดหมายถึงผู้พิทักษ์ป่า เปิดใจไม่มีเจตนากลั่นแกล้งเกลียดชังใคร ขอให้ทุกคนให้การไปตามความเป็นจริง

ความคืบหน้าคดี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรียกรับเงินส่วยรายเดือน จากผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งมีการล่อซื้อและบุกจับกุมกันไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปป. ได้แถลงความคืบหน้าว่า มีการเรียกพยานเจ้าหน้าที่กรมอุทยานจากพื้นที่จังหวัดปัตตานี เข้าสอบสวนเป็นรายแรก ซึ่งพยานอ้างว่า เงินสดในซอง 100,000 บาท ที่นำไปมอบให้ นายรัชฎา นั้น เป็นเงินค่าเช่าพระและเงินค่าทำบุญ ไม่ใช่เงินสินบน อย่างไรก็ตาม ก็มีความเคลื่อนไหวตอบโต้ทันทีจาก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้เปิดโปงเรื่องนี้จนนำไปสู่การจับกุม ว่าได้ส่งรายละเอียดให้พนักงานสอบสวน ปปป. ไปทั้งหมดแล้ว พร้อมกันนั้นยังได้เปิดเผยวิธีการจ่ายค่าพระรูป ร.5 ที่อ้างถึงว่า ทุกสำนัก 21 สำนัก ต้องจ่ายเงินโดยการโอนผ่านเข้ากองทุนสวัสดิการกรมอุทยาน องค์ละ 15,000 บาท ซึ่งจะปรากฏเป็นเอกสารการโอนเป็นสำคัญดังที่เห็น

นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ก็ได้มีการเขียนจดหมายเปิดใจไปถึงผู้พิทักษ์ป่าด้วยข้อความสั้น ๆ ว่า "ขอเรียนว่า ข้าพเจ้า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้พิทักษ์ป่า ไม่มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใคร หรือมีความเกลียดชังใคร และขอให้สำนักทุกสำนักให้การตามความจริง เชื่อว่า ปปป. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจะเห็นใจ จะให้ความชอบธรรม ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน ทุกหน่วยงานสนามที่ถูกบังคับ ที่ต้องจ่าย ต้องทำ ถ้าไม่ทำ ไม่จ่าย หัวหน้าหน่วยงานสนาม ผู้อำนวยการส่วนต้องโดนย้าย”

นอกจากจดหมายฉบับนี้แล้ว เราก็ยังมีโอกาสคุยกับ คุณชัยวัฒน์ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย 

นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า คนที่บอกว่าเป็นเงินเอาไปเช่าพระ ปปป. กับ ปปง. คงต้องสอบใหม่ เพราะเมื่อสอบสำนักอื่นต่อไปเรื่อยจนครบ 13 คน ตามรายชื่อที่ต้องเรียก ก็จะรู้ทันทีว่าให้การขัดแย้ง เนื่องจากเงินเช่าพระต้องโอนเข้ากองทุนเท่านั้น ไม่มีระเบียบให้นำเงินใส่ซองไปให้อย่างแน่นอน และตัวเงิน 100,000 บาท เมื่อหารด้วยพระองค์ละ 15,000 บาท ก็ไม่ลงตัวว่าได้พระกี่องค์ จะมีเศษเหลือ ซึ่งถ้ามีการเรียกมาชี้แจงครั้งที่ 2 แล้ว ชี้แจงไม่ขาด ก็อาจถูกมองว่าสมรู้ร่วมคิดได้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark