แท็กซี่ขับรถทับสุนัขหน้าโรงแรม โดนเจ้าถิ่นรุมกระทืบ

เช้านี้ที่หมอชิต - ไปดูอุทาหรณ์ โชเฟอร์แท็กซี่ขับรถทับสุนัขขณะเข้าจอดหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นคนรักสุนัขแถวนั้นเข้ามาลงมือรุมทำร้าย แต่ตำรวจจับคนขับแท็กซี่ไปเป่าแอลกอฮอล์ ปรากฏว่าเป็น 0 

นี่เป็นคลิปจากหน้ารถของ นายทรงชัย แซ่ตั้น โชเฟอร์ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวที่ขับรถไปทับสุนัข จากนั้นคนขับแท็กซี่อ้างว่าถูกกลุ่มเจ้าถิ่นรุมทำร้าย ข้อหาขับรถทับสุนัข

นายทรงชัย บอกว่า เมื่อวานเวลาประมาณ 21.00 น. ตนเองขับรถมาส่งผู้โดยสารบริเวณโรงแรมช้าง สยามอิน ในซอยเพชรบุรี 35 ตนเองเลี้ยวรถจอดทางด้านขอบทางด้านขวาหน้าโรงแรม เพื่อส่งผู้โดยสารลงรถ จังหวะนั้นมีสุนัขนอนขวางอยู่ แต่ นายทรงชัย อ้างว่าตนเองมองไม่เห็น ทำให้คนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นตะโกนโวยวายว่าเหยียบหมา 

พอได้ยินเสียงตะโกน นายทรงชัย จึงรีบถอยหลังรถทันที จากนั้นกลุ่มคนเหล่านั้นก็เข้ามาด่าตนเองที่รถ นายทรงชัย ระบุว่าช่วงแรกตนเองก็นิ่งเฉย ไม่โต้เถียง แล้วนำกระเป๋าไปส่งให้ผู้โดยสารที่เคาน์เตอร์โรงแรม และทำการแสตมป์บัตรจอดรถออก แต่ปรากฏว่ากลุ่มคนดังกล่าวด่ารุนแรงขึ้น และมีชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่าจะตบปากตนเอง นายทรงชัย จึงท้าออกไปว่า "พี่ก็ตบเลยสิ" จากนั้นจึงเกิดเหตุที่กลุ่มชายหน้าโรงแรมประมาณ 3-4 คน วิ่งเข้ามารุมทำร้าย นายทรงชัย

หลังเกิดเหตุทำร้าย มีคนแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ กลุ่มชายที่ทำร้าย นายทรงชัย ก็แจ้งกับตำรวจว่า นายทรงชัย เป็นฝ่ายเมาแล้วเข้าไปหาเรื่องพวกตน ส่วน นายทรงชัย ก็แจ้งว่าตนเองถูกคนกลุ่มนี้รุมทำร้าย พร้อมชี้ตัวบุคคลที่ทำร้ายตนทั้งหมด แต่ตำรวจไม่ช่วยเหลือ แถมมาล็อกตัว นายทรงชัย ไปที่โรงพัก แล้วจับเป่าแอลกอฮอล์ ผลออกมาเป็น 0 มิลลิกรัม เพราะ นายทรงชัย ระบุว่า ตนเองไม่ดื่มเหล้า จึงรู้สึกแปลกใจในการทำงานของตำรวจ ทำไมไม่เก็บหลักฐานบุคคลที่ทำร้ายตนเองไว้บ้าง

ซึ่งหลังจากคนขับแท็กซี่ลงไปในพื้นที่วันนี้ ก็มีการโต้เถียงกับคนที่เป็นชาวบ้านละแวกนั้น และลูกชายก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในเหตุการณ์ และถูกกล่าวหาว่าลงมือทำร้ายคนขับแท็กซี่ด้วย ซึ่งชาวบ้านก็มองว่าคนขับรายนี้พูดจาไม่ดีใส่ก่อน และถ้าขอโทษแต่แรก เหตุการณ์ก็น่าจะจบ ส่วนคนขับแท็กซี่บอกว่าไม่รู้จะขอโทษทำไม และเขาก็ถูกทำร้ายร่างกาย

ย้อนกลับไปดูในคลิป คนดูอาจมองเห็นสุนัข อาจจะเกิดข้อสังเกตว่า ทำไม คุณทรงชัย ถึงไม่ชะลอรถ หรือเบรกไม่ทัน ก็อาจเป็นเหตุให้คนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกโกรธที่แท็กซี่ขับรถไม่ระวัง แต่ในมุมของ นายทรงชัย ซึ่งอาจมองไม่ทัน หรือไม่ได้สังเกต และมองว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ใช่ที่เลี้ยงสุนัข อีกทั้งที่ไม่ได้ชดใช้ค่าเสียหาย เพราะไม่มีใครรับว่าเป็นเจ้าของหมา

ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดมีคนรับว่าเป็นเจ้าของหมา และบอกว่าหมาตัวนั้นนอนอยู่บนพื้นที่หน้าบ้าน ตอนนี้ไม่รู้หลบหายไปไหน ในขณะที่คนในละแวกใกล้เคียงบอกว่าหมาตัวดังกล่าวเป็นหมาพันธุ์ไทยอายุมาก เป็นหมาจรจัดที่หมานอนหน้าโรงแรม และมีคนมาให้ข้าวให้น้ำเป็นประจำ

นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกันสองมุม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรลงมือทำร้ายกัน เบื้องต้น นายทรงชัย ได้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ทำร้ายตนเองแล้ว และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด