ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

สุดช้ำ ลูกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ยังถูกตำรวจเรียกเงิน อ้างเป็นค่าทำสำนวนคดี

ข่าวสังคม 13 มกราคม 2566 - สนามข่าว 7 สี - หญิงชาวจังหวัดหนองคาย สุดทนพฤติกรรมตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของคดีที่ลูกชายของเธอ ประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต แต่หลังเกิดเรื่องแทนที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา กลับมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์โดยอ้างว่า เป็นคนเขียนสำนวนคดี จึงต้องได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันด้วยเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท พอไม่ให้โทรศัพท์ตามตื๊อ กดดันสารพัด จนเธอไม่มีทางเลือกต้องยอมโอนเงินไปให้ตำรวจนายนี้ในเบื้องต้น จำนวน 50,000 บาท   

หญิงอายุ 37 ปี ชาวตำบลโพนแพง อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย ย้อนเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้มาพบกับตำรวจนายนี้ โดยเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 20 พฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นวันที่ลูกชายอายุ 14 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ไปประสบอุบัติเหตุ ชนรถกระบะ 2 คัน โดยแต่ละคันติดตั้งกระบะพ่วงท้ายมาด้วย เป็นเหตุให้ลูกชายของเธอเสียชีวิตทันที โดยต่อมาหลังเกิดเหตุได้มีตำรวจยศ ร้อยตำรวจเอก สังกัดสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งทำหน้าที่พนักงานสอบสวนในคดีนี้ ได้ทำสำนวนคดีอย่างรัดกุม จนทำให้บริษัทประกันภัยที่รถกระบะคู่กรณีทั้ง 2 คัน ทำประกันไว้ยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้คันละ 5 แสนบาท รวมกันแล้วได้เงินประกันทั้งสิ้น 1 ล้านบาท

แต่หลังจากที่ได้รับเงิน 1 ล้านบาท จากบริษัทประกันภัยแล้ว กลับกลายเป็นว่าตำรวจนายนี้มาเรียกรับเงินจากเธอ จำนวน 150,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าทำสำนวนคดีจนมีส่วนทำให้บริษัทประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แบบเต็มวงเงิน แต่เธอยังไม่โอนให้เพราะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม จงใจมาเรียกเงินจากเธอในจำนวนที่มากเกินไป แต่ตำรวจนายนี้ไม่ลดละความพยายาม เพียรติดต่อมาทวงถามบ่อยครั้ง ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนเรื่องนี้กับสำนักงาน​ ป.ป.ช.​ ประจำจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างนี้ตำรวจนายนี้ได้ติดต่อมาหาเธอพอดี จึงสบโอกาสใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกคลิปภาพและเสียง โดยมีใจความที่สนทนากันนั้นพูดคุยถึงเรื่องการทำสำนวนคดีที่มีส่วนทำให้เธอได้รับเงินสินไหมทดแทน นอกจากนี้บางช่วงของคลิปตำรวจนายนี้ พูดว่า "ถ้าที่อื่นเรียกรับกันมากกว่านี้ มากถึงครึ่งหนึ่งของเงินสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันจ่ายให้ ที่ตนเรียก ยังถือว่าน้อย ก็คุยกันแล้ว พอได้เงินจะมีบิดพลิ้วเหรอ สำนวนยังอยู่ที่ตน ๆ ทำใหม่ได้ ทำให้เป็นข้อหาประมาทร่วม ก็จะทำให้ไม่ได้เงินสักบาท ไม่ได้ข่มขู่ บริษัทประกันก็มาเจรจากับตน แต่ตนไม่รับ"

หลังวางสายโทรศัพท์แล้ว แต่หญิงอายุ 37 ปี ยังนั่งอยู่ในห้องของสำนักงาน​ ป.ป.ช.​ ประจำจังหวัดหนองคาย จึงทำการโอนเงินก้อนแรกจำนวน 50,000 บาท เข้าบัญชี ที่ระบุชื่อตำรวจนายนี้ พร้อมบันทึกสลิปการโอนเงินเอาไว้ เพื่อวันนี้จะใช้เป็นหลักฐานเข้าไปยื่นร้องเรียนเรื่องนี้อีกครั้งกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark