ค้น 6 จุด คลินิกเสริมความงามศัลยกรรมเถื่อน

เช้านี้ที่หมอชิต - ขยายผลจับกุมเครือข่ายคลินิกรายใหญ่ ยึดซิลิโคนศัลยกรรมเสริมความงามเถื่อนกว่า 16,164 ชิ้นศัลยกรรมให้ลูกค้ากว่า 1600 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 2,932,000 บาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลงานการขยายผลจับกุมเครือข่ายคลินิกรายใหญ่ 6 จุด ใน 5 จังหวัด ยึดซิลิโคนศัลยกรรมเสริมความงามเถื่อนกว่า 16,164 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 2,932,000 บาท

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับองค์การอาหารและยา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี นำหมายค้นเข้าตรวจค้นโรงสีร้างในพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลวังหว้า อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ใช้เป็นฐานการลักลอบผลิตชิ้นส่วนซิลิโคนศัลยกรรมเสริมจมูกและหน้าผาก เพื่อกระจายไปยังคลินิกต่าง ๆ ซึ่งการตรวจค้นในวันนั้นสามารถตรวจยึดเครื่องจักรสำหรับผลิตซิลิโคนจมูกและหน้าผาก, แม่พิมพ์ซิลิโคนและซิลิโคนเสริมจมูกและหน้าผากสำเร็จรูปจำนวนมาก มูลค่าความเสียหาย 3,500,000 บาท และมีการดำเนินคดีกับ นางสาวณัฐปภัสร์ หรือน้ำตาล ผู้ผลิตซิลิโคนเถื่อนในความผิดฐาน "ผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับใบรับแจ้งรายการละเอียด" ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา พร้อมรับว่าทำมาแล้วประมาณ 2 ปี

จากการสืบสวนขยายผลปรากฏพบว่า ซิลิโคนส่วนใหญ่ มีพนักงานฝ่ายจัดซื้อของบริษัทแห่งหนึ่งเป็นผู้สั่งผลิต เมื่อผลิตเสร็จจะถูกส่งไปที่ คลินิก ก. (นามสมมุติ) สาขางามวงศ์วาน และสาขาขอนแก่น โดยพบหลักฐานการจ่ายเงินค่าซิลิโคนในห้วงปี 2565 มากกว่า 2 ล้านบาท

ด้วยเหตุนี้จึงมีการเข้าตรวจค้น คลินิก ก. สาขาต่าง ๆ สามารถตรวจยึดชิ้นส่วนซิลิโคนรูปจมูก ซิลิโคนทรงหน้าผาก ซิลิโคนทรงคาง ได้อีกนับหมื่นชิ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางสาวน้ำตาล ยอมรับว่ามีการกระจายซิลิโคนไปมากถึงกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ

นางสาวน้ำตาล ยังเปิดเผยความงอกงามของธุรกิจเถื่อนว่า ต้นทุนซิลิโคนเพียงชิ้นละ 60-80 บาทเท่านั้น แต่สามารถขายคอร์สผ่าตัดศัลยกรรมได้ในราคา 4,900-50,000 บาท และจากการตรวจสอบผู้รับบริการศัลยกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 ถึงปัจจุบันพบว่า คลินิก ก. 5 สาขา มีการผ่าตัดศัลกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชิ้นส่วนซิลิโคนกว่า 1,621 ราย เป็นการเสริมจมูก 1,436 ราย, คาง 154 ราย และเสริมจมูกกับคางพร้อมกัน 31 ราย