ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

รวบมือฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์หญิงแอฟฯ ดัง จ.นนทบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงรถยนต์โชเฟอร์หญิง แอปพลิเคชันดัง โดยใช้เชือดรัดคอจนเสียชีวิต ก่อนทิ้งไว้ในป่าข้างทาง ล่าสุด จับกุมคนร้าย พร้อมรับสารภาพ นำเงินที่ขายรถยนต์และมือถือผู้เสียชีวิต ไปซื้อยาบ้าและโอนให้แฟนสาว

เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ฆ่าชิงทรัพย์ หลังพบหญิงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ คือ นางเกศยุคล โพธิ์มาศ อายุ 50 ปี อาชีพขับรถแอปพลิเคชันดัง ได้ถูกผู้ต้องหาออกอุบายให้ขับรถไปส่งที่หมู่บ้านเดอะวิลล่า บางบัวทอง ขณะที่รถผู้เสียชีวิตจอดอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านเดอะวิลล่า ผู้ต้องหาใช้เชือกรัดคอเหยื่อจนเสียชีวิตภายในรถ และใช้เชือกที่รัดคอ เอามามัดมือมัดขาของผู้เสียชีวิต ก่อนจะนำศพไปทิ้งในป่าหญ้าข้างทาง ภายในซอยวัดท่าเกวียน ตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ต่อมาวันที่ 15 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณแฟลตปลาทอง รังสิต ทราบชื่อคือ นายวีระณัฐภูมิ คำสุยะ อายุ 21 ปี เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาฆ่าชิงทรัพย์

ตำรวจชุดสืบสวน ยังได้ติดตามรถของกลางที่ผู้ต้องหานำไปขายให้กับคนรู้จักในพื้นที่บางบอน-มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วิช สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 3ขฏ 6097 กทม. และเชือกที่ผู้ต้องหาใช้ในการสังหารเหยื่อ พร้อมประสานพิสูจน์หลักฐานตำรวจจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานอื่น ๆ ทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม

จากนั้นแถลงความคืบหน้าการจับกุมตัวนายวีระณัฐภูมิ พร้อมของกลาง รถยนต์ และเชือกที่ใช้ในการก่อเหตุ นายวีระณัฐภูมิ กล่าวว่า ตนขายรถได้ 40,000 บาท แต่ได้รับเงินจริง ๆ แค่ 25,000 บาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือได้ถูกหักไปให้กับนายหน้าทั้ง 3 คน และได้นำโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตไปขายได้เงินจำนวน 3,500 บาท นำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ และโอนเงิน จำนวน 25,000 บาท ให้กับแฟนสาว

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากับนายวีระณัฐภูมิ ในข้อหาฆ่าชิงทรัพย์ และแจ้งข้อหา นางสาวปนัดดา ในข้อหารับของโจร ส่วนคนกลางทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวได้ครบทั้งหมดแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการเพื่อขยายผลต่อไป

ด้านบริษัทแกร็ปประเทศไทย ออกแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าวใจความว่า กรณีที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับคนขับเพศหญิง ซึ่งให้บริการเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน ขอชี้แจงว่า "ภายหลังการตรวจสอบข้อมูล ทั้งชื่อและนามสกุล รวมถึงทะเบียนรถที่ปรากฎตามรายงานข่าว ไม่พบข้อมูลของผู้เคราะห์ร้ายในฐานข้อมูลพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ"

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark