คอลัมน์หมายเลข 7 : รับส่วยธุรกิจสีเทาบานปลาย กล่าวหาลามถึงอธิบดี ดีเอสไอ

ข่าวภาคค่ำ - เรื่องฉาวแก๊งมังกรนอกรีต ที่เข้ามาทำธุรกิจสีเทาในประเทศไทย ยิ่งสาวยิ่งส่งกลิ่น ล่าสุดพัวพันไปถึงสามหน่วยงาน ทั้งดีเอสไอ ทหาร และตำรวจ 191 รับสินบนกว่า 20 ล้านบาท คดีทำท่าจะพัวพันไปถึงอธิบดีดีเอสไอ เรื่องร้อน ๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร และใครต้องรับผิดชอบ ติดตามได้ใน คอลัมน์หมายเลข 7

คลิปวงจรปิดที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เอามาเปิดเผย โดยพาดพิงว่า มีทหาร ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย เข้าไปมีส่วนพัวพันกับการรับสินบนจากแก๊งจีนนอกรีต ที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง เพื่อแลกกับการปล่อยตัวคนจีนที่ DSI และตำรวจ 191 จับกุมในบ้าน ที่อดีตกงศุลนาอูลู เป็นผู้เช่าไว้ย่านสาธร ก่อนที่เจ้าตัวเดินทางกลับประเทศ แต่กลับถูกคนจีนกลุ่มนี้ แอบอ้างใช้เป็นสถานที่ในการออกวีซ่าปลอมให้กับคนจีน มีการเรียกรับผลประโยชน์มากกว่า 20 ล้านบาท เกี่ยวพันถึงเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ 191 ไปจนถึงทหาร ซึ่งในส่วนของดีเอสไอและตำรวจ 191 ทยอยให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงไปแล้ว ส่วนทหารที่ไปเกี่ยวข้อง วันนี้ก็มีคำสั่งด่วนจากผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สอบสวนกรณีนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ขีดเส้นต้องจบภายใน 5 วัน

ขณะที่การสอบสวนก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้น ผู้รับผิดชอบมั่นใจหลักฐานมัด เอาผิดได้ และจะเร่งสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ต่อไป

คดีนี้มีการซัดทอดกันเป็นหางว่าว หลังมีภาพหลุดระหว่างการเข้าจับกุม เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ถึงมือนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยเจ้าตัวหอบหลักฐานไปร้องที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. กล่าวหาเจ้าหน้าที่ DSI และตำรวจ 191 หมกเม็ด ส่งของกลาง และผู้ต้องหาไม่ครบ แถมยังมีการเรียกรับประโยชน์เพิ่มเติม แลกการปล่อยตัวอีก 4 ล้านบาท

เป็นเรื่องฉาวที่กระทรวงยุติธรรม นั่งไม่ติด ต้องเร่งสอบ เร่งเคลียร์ ยืนยันไม่มีมวยล้ม พร้อมรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนเป็นระยะ

ล่าสุด นายอัจฉริยะ นำหลักฐานคำสั่งที่นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ลงนาม แต่งตั้งชุดปฏิบัติการฯเข้าตรวจค้น จนสุดท้ายจากเข้าไปจับกุม กลายเป็นการเรียกรับผลประโยชน์ ไปร้องทุกข์ กล่าวโทษ เพื่อเอาผิดอธิบดีดีเอสไอ หลังพบเป็นการลงนามย้อนหลัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดีเอสไอไม่เคยมีบทบาทในคดีดังกล่าว อีกทั้งไม่มีหน้าที่ด้วย จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการทำหนังสือเพื่อให้การบุกจับในวันที่ 22 ธันวาคมปีที่แล้ว เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย

จะสาวไปถึงตัวใหญ่แค่ไหน เป็นทั้งบทพิสูจน์พนักงานสอบสวน และเป็นเรื่องที่สังคมยังต้องจับตาใกล้ชิด