ยืนยัน นายพล จ. พัวพันเครือข่ายหลงจู๊ภาค 2 ไม่ใช่ จักรทิพย์ และลูกชาย

เช้านี้ที่หมอชิต - ตรวจสอบแล้ว "นายพล จ." และลูกชาย ทำเว็บพนันออนไลน์ พัวพันเครือข่ายหลงจู๊ ภาค 2 ให้สินบนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอแลกกับการหลุดคดี ไม่ใช่อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา

จากคดีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงเปิดโปงเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรียกรับสินบนจํานวน 50 ล้านบาท ในคดีสมคบค้ายาเสพติดและฟอกเงินเครือข่ายหลงจู๊ มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 25 คน ทั้งระดับบริหารและปฏิบัติการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทำให้คดีการพนันออนไลน์และฟอกเงิน กลายเป็นสมคบยาเสพติดและฟอกเงิน ซึ่งเมื่อสรุปสำนวนส่งอัยการจะทำให้ไม่ถูกสั่งฟ้อง เนื่องจากเป็นการตั้งคดีที่ผิดพลาดแต่แรก

โดยระบุว่า มีลูกชาย 2 คนของนายพลชื่อย่อ จ. คนหนึ่งทำเว็บพนันออนไลน์ ร่วมกับลูกชายของนายตำรวจอีกคนระดับผู้การจังหวัด แต่สุดท้ายถูกเรียกสอบในฐานะพยาน ไม่ใช่ผู้ต้องหา เป็นผลจากการจ่ายสินบน และการวิ่งเต้นของนายตำรวจระดับพลตำรวจเอก ศ. คนหนึ่ง กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอกลุ่มนั้น

ต่อมามีสื่อมวลชนบางกลุ่มบางสำนัก ระบุว่า นายพล จ. พ่อของลูกชาย 2 คน คือ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทางทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงมาแล้ว พบว่าไม่ใช่พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา และลูกชายอย่างแน่นอน แต่เป็นนายตำรวจระดับนายพลชื่อย่อ จ. เช่นเดียวกัน แต่เป็นแค่ระดับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ยศพลตำรวจโท เท่านั้น และนายพลคนดังกล่าวก็มีลูกชาย 2 คนเหมือนกัน ซึ่งการนำเสนอข้อมูลของสื่อบางสำนักที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายกับอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และครอบครัวเป็นอย่างมาก

สำหรับคดีการรับสินบนของเครือข่ายหลงจู๊ ภาค 2 ทางนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สอบนายตำรวจ 2 นาย ข้อหาร่ำรวยผิดปกติ ตำรวจนายหนึ่งยศร้อยตำรวจโท อีกนายยศร้อยตำรวจเอก โดยประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า อยากให้พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ตำรวจ 2 นายนี้ เพราะมีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 2 พันล้านบาท ย้อนไปตั้งแต่ปี 2561-2563

โดยเฉพาะตำรวจยศร้อยตำรวจโท มีการตรวจสอบพบว่า ก่อนเข้ารับราชการตำรวจ ได้เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์และตู้ม้า อยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 เคยถูกจับตู้ม้ามากถึง 60 ตู้ แต่เหตุใดจึงยังเข้ามารับราชการเป็นตำรวจได้ โดย นายอัจฉริยะได้มอบเอกสารข้อมูลเส้นทางการเงินของตำรวจทั้ง 2 นาย รวมทั้งข้อมูลเอกสารที่ชี้ให้เห็นว่า คดีนี้ดีเอสไอเคยเข้าไปทำคดี แต่มีการมอบสินบนจำนวน 10 ล้านบาท จากตำรวจทั้ง 2 นาย แลกกับการไม่ดำเนินคดี จึงเรียกร้องให้ ผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และแต่งตั้ง "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าไปดูแลคดีนี้ พร้อมกับคดีเจ้าหน้าที่ร่วมกับคนร้ายปล้นบ้านคนจีนในพื้นที่อำเภอหนองปรือ จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีการซุกซ่อนเงินสดไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท