เผาแล้ว ศพเหยื่อแก๊งเงินกู้ออนไลน์ เมียวอนดำเนินคดี จ.ขอนแก่น

เช้านี้ที่หมอชิต - ฌาปนกิจแล้วหนุ่มโรงงานถูกคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินจนเป็นหนี้สินหลายทาง จนตัดสินใจฆ่าตัวตาย เมื่อกลางดึก 14 มกราคมที่ผ่านมา ภรรยาวอนตำรวจจับมิจฉาชีพกลุ่มนี้มาดำเนินคดี หลังส่งข้อความเยาะเย้ยสามีว่าตายเพราะความโลภ ทั้งที่แอบกู้หวังหาเงินไปทำงานต่างประเทศ

กรณีนาย อัฐวุฒิ ผมเพ็ชร ชาวอำเภอบ้านไผ่ หลังผูกคอเสียชีวิต เมื่อเปิดดูข้อความในโทรศัพท์มือถือของผู้ตายพบข้อความแช็ตในการขอกู้ยืมเงินจากแอปฯ เงินกู้ ในช่วงเวลา 13.00 น. ของวันที่ 13 มกราคม 2566 โดยใช้ชื่อ แอปลิ้งก์ ออนไลน์ โลน ไทยแลนด์ ซึ่งผู้ตายได้ติดต่อขอกู้เงินจำนวน 50,000 บาท ส่งงวดรวม 48 งวด พร้อมข้อความแช็ตที่แอดมินคอลเซ็นเตอร์แหล่งเงินกู้นอกระบบแช็ตเยาะเย้ยผู้ตาย ก่อนที่ภรรยาและญาติ ๆ จะนำศพผู้ตายมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิด เพื่อส่งดวงวิญญาณผู้ตาย

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ของเมื่อวานนี้ ที่วัดคุ้มจัดสรร (หลวงปู่นิล) ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น มีการประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ตอนเคลื่อนหีบศพไปที่เมรุ น้องสาวผู้ตายที่ถือรูปผู้ตายเดินนำก็ร้องไห้กันระงม ญาติ ๆ ต้องพาออกนอกงานเพื่อให้ดวงวิญญาณผู้ตายไปสู่สุขติตามความเชื่อ รวมทั้งภรรยาผู้ตายพร้อมญาติ ๆ ได้นำมะพร้าวมาล้างหน้าศพ และพูดกับผู้ตายให้หมดห่วง ก่อนที่พระสงฆ์จะจุดไฟประชุมเพลิง

นางภัทรพร ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า เงินที่สามีไปหยิบยืมมาให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปน่าจะมากกว่าที่เป็นข่าวอีกเป็นจำนวนมาก แต่ตนก็ไม่รู้จำนวนเพราะสามีจะลบแช็ตไลน์ออกตลอดเวลา เพื่อแอบกู้เงินไม่ให้ตนเองรู้ เพราะเคยเตือนไปแล้วว่าอย่าไปยุ่ง เพราะมันคือมิจฉาชีพอย่างแน่นอน ไม่มีใครมาเอาข้อมูลเราด้วยการให้ถ่ายภาพคู่กับบัตรประชาชน แต่ตนรู้ว่าเจตนาของสามีต้องการให้ครอบครัวสุขสบาย อยากหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว และตั้งใจจะไปทำงานต่างประเทศ เคยคุยกันก่อนหน้านี้ว่าอยากจะไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น หรือไม่ก็เกาหลี เพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัว สามีรับปากแล้วว่าจะไม่ไปกู้ยืมผ่านพวกแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือพวกคอลเซ็นเตอร์ แต่สุดท้ายสามีก็ไปแอบทำโดยที่ตนเองไม่รู้ อาจจะแอบทำตอนที่ตนเองหลับแล้วก็จะลบแช็ตออกตลอด

ภรรยาผู้เสียชีวิตจึงฝากเตือนทุกคน อย่าไปหลงเชื่อ อย่าบอกข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพหรือบุคคลที่ไม่รู้จักโดยเด็ดขาด และอยากขอความเป็นธรรมจากตำรวจให้ติดตามจับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ถูกหลอก และมีอีกหลายคนที่คิดสั้นที่จะฆ่าตัวตายเหมือนกับสามีของตนเอง