เหยื่อถูกแฮ็กโทรศัพท์มือถือ 10 คน ร้อง สอท. หลังสูญเงินนับล้าน

เช้านี้ที่หมอชิต - พบอีกแล้ว เหยื่อถูกแฮ็กมือถือ ต้องไปร้องตำรวจไซเบอร์ให้ช่วย หลังถูกมิจฉาชีพดูดเงินรวมกันนับล้านบาท ทางผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายมาร้องเรียนกับตัวเองแล้วเกือบ 100 คนที่ถูกแฮ็กบัญชี

เหยื่อจำนวน 10 คน เป็นกลุ่มที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พามาร้องขอความช่วยเหลือที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ให้ช่วยดำเนินการติดตามมิจฉาชีพที่แฮ็กมือถือให้หน่อย แต่ละรายโดยไปคนละหลายแสนบาท รวมแล้วมูลค่าความเสียหายนับล้าน ซึ่งบางคนก็มีการกดลิงก์ที่ถูกส่งเข้ามาในมือถือ แต่บางคนก็ยืนยันว่าไม่ได้กดลิงก์อะไรเลย

ผู้เสียหายรายแรก บอกว่า เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา มีข้อความมือถือส่งเข้ามาขณะที่ตนเองอยู่บ้าน เป็นรหัส OTP ซึ่งตอนนั้นตนเองไม่ได้เข้าไปกดลิงก์ มารู้ตัวว่าเงินในบัญชีธนาคารหายไปก็ในวันที่ 9 มกราคม จึงไปตรวจสอบรายละเอียด พบว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีตนเองไปหลังจากที่มีการส่งข้อความ OTP มา เพียง 5 นาที ซึ่งตนเองโดนโอนเงินออกไป จำนวน 2 บัญชี มูลค่ากว่า 4 แสนบาท

ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่เคยไปกดลิงก์อะไรเลย แต่เคยมีคอลเซ็นเตอร์โทรมา แต่ก็กดทิ้งไป ไม่ได้รับสาย แต่ที่ผิดสังเกตคือ หลังจากรหัส OTP เข้ามา มือถือตนเองมีอาการค้าง ๆ ดูผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก่อนที่จะพบว่าเงินถูกดูดไปเกลี้ยงบัญชี

ส่วนผู้เสียหายอีกคน คือ นางสาวณภัทรศนัส รังสิมาหริวงศ์ อายุ 37 ปี บอกว่า อยู่ดี ๆ ก็มีข้อความจาก แอปพลิเคชันขายของออนไลน์ยี่ห้อหนึ่ง ส่งข้อความ SMS มาหาเธอ ซึ่งเธอเข้าใจว่าเป็นไลน์ทางการของแอปฯ ดังกล่าว ส่งมาบอกให้เธอกดลิงก์เพื่อรับโค้ดส่วนลด เธอจึงกดลิงก์ไป ตอนแรกกดลิงก์ไม่ได้ เธอจึงตอบกลับไปว่าทำไม่ได้ จึงทำให้มีบุคคลโทรศัพท์เข้ามา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของแอปพลิเคชัน เธอจึงคุยด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้เธอถือสายรอ 19 นาที ก่อนที่จะวางไป และเธอก็พบว่าเงินในบัญชีกว่า 270,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาลูกนั้นหายไปหมดแล้ว

เธอยอมรับว่าประมาทที่กดลิงก์ แต่ที่เธอตั้งข้อสังเกตคือการโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารที่ผิดปกติในครั้งเดียว ซึ่งปกติจะทำธุรกรรมในหลักหมื่น แต่ครั้งนี้มีการโอนในหลักแสน เหตุใดธนาคารถึงไม่ตั้งข้อสังเกต และสอบถามมายังเจ้าของบัญชี

พลตำรวจตรี กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบก.ตอท. บอกว่า จากนี้จะนำข้อมูลของผู้เสียหายไปตรวจสอบ และจะทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อตรวจสอบพฤติการณ์ของมิจฉาชีพว่ามีรูปแบบใดบ้าง เพราะกรณีในลักษณะแบบนี้ ไม่เคยเจอมาก่อน ยืนยันว่าจะหาต้นตอของขบวนการดังกล่าวให้ได้ ส่วนที่ว่าจะเป็นการเข้ารหัสจากการเล่นโซเชียลมีเดียหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ และได้ฝากเตือนประชาชนให้แบ่งเงินในส่วนเงินเก็บ ไม่ควรจะผูกกับแอปฯ บัญชีธนาคาร

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า ขณะนี้กลุ่มผู้เสียหายที่มาร้องเรียนกับตนเองมีมากเกือบ 100 คน ที่ถูกแฮ็กบัญชีธนาคารในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจากการพูดคุยเบื้องต้น ทุกคนยืนยันว่าไม่มีการโหลดแอปพลิเคชันอะไรแปลก ๆ มา หรือ เข้าไปกดลิงก์แปลกปลอมที่ส่งเข้ามา และยืนยันว่าหลายคนไม่การเปลี่ยนสายชาร์จ หรือ ไปใช้ไวไฟที่อื่นที่อาจจะเป็นช่องโหว่ของมิจฉาชีพ จึงอยากฝากไปยัง ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวงการคลัง และธนาคารเจ้าของบัญชี ควรจะออกมารับผิดชอบหรือเยียวยาผู้เสียหาย และเร่งหาทางแก้ไขเบื้องต้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะประชาชนหลายคนกังวลกับปัญหานี้เป็นอย่างมาก