ตำรวจปล่อยภาพวงจรปิด พิสูจน์ความจริงดาราสาวไต้หวัน

เจาะประเด็นข่าว 7HD - กรณีสาวไต้หวันอ้างว่า ถูกตำรวจไทยยัดบุหรี่ไฟฟ้า และเรียกรับเงิน จำนวน 27,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ล่าสุดตำรวจได้ปล่อยภาพวงจรปิดออกมาเผยแพร่เป็นภาพขณะที่เธอถือ และสูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย

มีความคืบหน้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว สำหรับการคลี่คลายปมเหตุที่ "อันยู๋ซิง" ดาราสาวไต้หวัน โพสต์ข้อความอ้างว่าถูกตำรวจไทยรีดไถเงินไป 27,000 บาท ขณะนั่งรถรับจ้างผ่านด่านตรวจ คืนวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา และต่อมาดาราสาวไต้หวันได้ให้สัมภาษณ์สื่อไต้หวันว่า "พอตำรวจเอาเงินไปแล้ว พวกเขาก็ยัดบุหรี่ไฟฟ้ามาให้ฉัน ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรในตอนนั้น แต่ก็ถูกตำรวจถ่ายรูป ตำรวจควบคุมตัวนักท่องเที่ยว เพียงเพราะพวกเราพูดภาษาไทยไม่ได้ และกดดันให้ต้องจ่ายเงินโดยดี "

โดยคำให้สัมภาษณ์ของเธอที่บอกว่า "ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรในตอนนั้น ทำให้ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ก่อนจะไปพบภาพจากกล้องวงจรปิด ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เวลา 13.55 น. เป็นภาพกล้องวงจรปิดบริเวณทางเดินสระว่ายน้ำชั้น 11 พบดาราสาวไต้หวันสูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่บริเวณทางเดินสระว่ายน้ำ ขณะกำลังเดินไปที่ลิฟต์โดยสาร

ต่อมาเวลา 13.56 น. กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าลิฟต์โดยสารชั้น 11 ที่กำลังจะโดยสารลงไปชั้น 1 บันทึกภาพดาราสาวไต้หวันในมือขวาถือพอตบุหรี่ไฟฟ้า ขณะใช้นิ้วมือขวากดโทรศัพท์มือถือที่ถือในมือซ้าย

เพื่อความถูกต้องว่าจะใช่ดาราสาวคนดังกล่าวหรือไม่ หรืออาจจะถูกอ้างว่าไม่ใช่ภาพตนเอง จึงไปค้นภาพในอินสตาแกรมส่วนตัวของดาราสาว ก็ไปพบว่าวันที่ 3 มกราคม 2566  โพสต์ภาพถ่ายด้วยชุดกระโปรงสีครีม มีหมวกบังแดดสีครีมขอบดำ วางอยู่ข้างตัว แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณทางเดินสระว่ายน้ำ ขณะที่ดาราสาวไต้หวัน สูบพอตบุหรี่ไฟฟ้า และถือพอตบุหรี่ไฟฟ้าในมือขวาขณะเล่นโทรศัพท์ที่หน้าลิฟต์โดยสารชั้น 11 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยแต่งกายด้วยชุดกระโปรสีครีม ใส่หมวกบังแดดสีครีมขอบดำ ลักษณะเดียวกันจึงเชื่อว่าดาราสาว ถ่ายภาพในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 แต่นำมาโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 จากภาพกล้องวงจรปิดในสถานที่ดังกล่าว ทำให้เชื่อได้ว่า ดาราสาว รู้จักและสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งขัดแย้งกับการให้สัมภาษณ์กับสื่อไต้หวันว่าเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรในตอนนั้น และเธอใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน

ถัดมา ยังมีภาพที่ถูกนำมาเผยแพร่อีก 1 ภาพ เป็นภาพขณะดาราสาวไต้หวัน เดินอยู่บริเวณตลาดห้วยขวาง พร้อมกับเพื่อนชายอีก 2 คน ก่อนหน้าจะมาที่เดินตลาดห้วยขวาง เธอกับเพื่อนอีก 4 คน ขึ้นรถแท็กซี่จากบริเวณด่านตรวจ โดยไปส่งเพื่อนชายคนหนึ่งที่พอพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยที่พักใน ซอยรัชดาภิเษก 32 กรุงเทพฯ แล้วนั่งรถแท็กซี่คันเดิมไปที่ตลาดห้วยขวาง ข้อสงสัยหากดาราสาวถูกตำรวจเรียกเงิน 27,000 บาท แล้วยังมาเดินเที่ยวต่อที่ตลาดห้วยขวางหรือ และในมือของเธอซึ่งเห็นสิ่งที่คล้ายกับบุหรี่ไฟฟ้า

ด้านดาราสาว ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวล่าสุด 2 โพสต์ ทั้งเป็นภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ใจความว่า ทำไมความจริง และความเท็จจึงบิดเบือน ฉันขอขอบคุณทุกคนจากใจจริง สำหรับการให้ความสำคัญในประเด็นนี้ ฉันเห็นด้วยที่จะให้สัมภาษณ์อันเป็นที่สิ้นสุดกับสื่อ ฉันจะบอกเล่ารายละเอียดเป็นครั้งสุดท้ายถึงประสบการณ์ที่เลวร้ายของฉันในประเทศไทย โปรดให้ช่วงเวลา และพื้นที่แกฉันในระหว่างช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า หลักฐานต่าง ๆ ทั้งกล้องวงจรปิด หรือกล้องหน้ารถ ส่งให้กับตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบว่ามีการตัดต่อหรือไม่ ซึ่งวันนี้จะมีการรายงานผลกลับมาอย่างไม่เป็นทางการ แต่ส่วนหลักฐานด้านเอกสารต่าง ๆ หรือหลักฐานอื่น ๆ ขอเวลา 1-2 วันในการตรวจสอบ ส่วนเพื่อนชายต่างชาติ 3 คน ที่อยู่กับดาราสาว ตอนนี้พอรู้แหล่งพักพิงแล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ายังอยู่ในประเทศไทย หรือออกนอกประเทศไปแล้ว เนื่องจากกล้องวงจรปิดนั้นไม่ชัดเจน ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนที่ดาราสาวโพสต์ลงโซเชียลชี้แจงนั้น ทางผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 บอกว่า เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะโพสต์อะไรก็ได้ แต่ตำรวจก็จะนำสิ่งเหล่านั้นมาประกอบในการตรวจสอบ ซึ่งจะจริงทั้งหมดหรือไม่ ขอให้พยานหลักฐานเป็นสิ่งพิสูจน์

ขณะที่พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน เพื่อสรุปข้อมูลการสืบสวนสอบสวนตามคำให้การของพยานทุกปาก และข้อมูลที่ดาราสาวชาวไต้หวันเปิดเผยข้อมูลตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นำไปเทียบเคียงกับข้อมูลการสืบสวนสอบสวนที่ได้ เพื่อสรุปว่าจะต้องมีการสืบเสาะหาข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ก่อนจะมีการแถลงข่าวชี้แจงกรณีนี้กับสื่อมวลชน ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถแถลงข่าวชี้แจงได้ในสัปดาห์นี้