พ่อแม่ ตะวัน รุดเยี่ยมลูกทรุดหนัก

เช้านี้ที่หมอชิต - ตะวันแบม ยอมรับน้ำเกลือ เพื่อรักษาชีวิตชั่วคราวตามคำขอร้องของทนาย พ่อแม่และเพื่อน จนกว่าศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวกลุ่มทะลุแก๊ส ซึ่งทนายยื่นคำขอไปเมื่อวานนี้ ขณะที่กลุ่มทะลุแก๊สประกาศจะขอยุติบทบาทบนถนน หากเพื่อนทุกคนเดินออกจากเรือนจำ ซึ่งจะส่งผลให้ตะวันและแบมยอมเข้ารับการรักษาทางการแพทย์

การอดอาหารและน้ำของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ ตะวัน และแบม เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันของนักกิจกรรมทางการเมืองอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระหว่าง

ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ได้ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม จนถึงวันนี้ เข้าสู่วันที่ 21 ในการอดอาหารซึ่งในช่วงหลังทั้งคู่ยอมจิบน้ำบ้าง แต่ก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

และช่วงเช้าวานนี้ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เข้าเยี่ยมติดตามอาการของทั้งคู่ พร้อมแจ้งว่ากำลังจะเดินทางเข้าพบผู้บริหารศาลอาญา เพื่อแจ้งข้อเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้คุมขังคดีทางการเมืองรวม 8 คดี ที่ถูกคุมขังมานาน และได้สื่อสารกับตะวันว่า ทุกคนขอให้รับการรักษา เพราะเวลาที่เหลืออาจไม่พอ อาจจะสูญเสียชีวิตหรืออวัยวะบางส่วน ขอให้แพทย์ตรวจรักษาได้หรือไม่ เนื่องจากไม่รู้ว่าศาลจะให้ประกันตัวเมื่อใด แต่ตะวันยังยืนยันที่จะรอผลการยื่นประกัน โดยระบุว่า "หนูยังอยู่ไหว ถ้าไม่ไหวหนูจะหลับไปเลย"

อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวานนี้ เพจสำนักข่าวราษฎร โพสต์แจ้งว่า ทนายเผยตะวันแบมยอมรับน้ำเกลือแล้ว หลังขอร้องเพื่อรักษาชีวิตไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลมีคำสั่งประกันตัวกลุ่มทะลุแก๊ส

ซึ่งตามภาพนี่ก็คือนักกิจกรรมทางการเมืองที่ยังคงถูกคุมขัง และยังคงไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว ที่หลายฝ่ายคงต้องลุ้นกันต่อในวันนี้ว่าศาลจะมีคำสั่งให้ประกันตัวหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มทะลุแก๊ซได้โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ สื่อสารถึงผู้มีอำนาจเรื่องการให้ประกันตัวระบุว่า "หากศาลคืนสิทธิประกันตัวให้กับผู้ถูกคุมขังคดีทางการเมืองทั้งหมด ส่งผลให้ตะวันและแบมยอมเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ กลุ่มทะลุแก๊ซ ที่ทำให้ กอ.รมน. ตำรวจ ทหารทั้งประเทศรำคาญใจ จะขอยุติบทบาทบนถนนตั้งแต่วินาทีที่เพื่อนเราทุกคนเดินออกจากเรือนจำ แต่ถ้าวันนี้ศาลยกคำร้องขอประกันตัว พวกเราก็จะขอต่อสู้จนถึงที่สุด จนกว่าผู้ถูกกดขี่จะได้รับการปลดปล่อย จนกว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้นในประเทศนี้ จนกว่าคนจะเท่ากับคน นี่คือคำขอร้องและคำเตือน"